ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากนางสาวชุรีพร แดงพยนต์ อายุ 33 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อฯ ขอให้ช่วยเรื่องที่ ถูก บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัด นครปฐม บอกเลิก สัญญาว่าจ้างงานทาสีป้าย ทั้งที่ทำงานไปได้แล้ว กว่า 30 เปอร์เซ็นต์
โดยนางสาวชุรีพร เล่าเหตุการณ์ที่ถูกบอกเลิกสัญญาว่าจ้างงานให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า แฟนหนุ่มของตนได้รับงานทาสีป้ายของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม โดยที่งานต้องเดินทางไปทำอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดปัตตานี ซึ่งสัญญาว่าจ้างงานทาสีป้าย Tower ได้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ระหว่างบริษัท แห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม โดยมีนาย ก.(นามสมมุติ)กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นผู้ว่าจ้าง กับนายบัญชา(นามสมมุติ) เป็นผู้รับจ้าง คู่สัญญาทั้งสองได้ทำสัญญากันโดยมีข้อความระบุไว้ ในสัญญาว่าจ้างงาน จำนวน 9 ข้อ
โดยในสัญญาระบุให้งานแล้วเสร็จบริบูรณ์ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ระหว่างที่ทีมงานของผู้รับจ้างนายบัญชา(นามสมมุติ)เข้าทำงานอยู่ๆ ก็ได้รับแจ้งกับทางผู้ว่าจ้างนาย ก.(นามสมมุติ) เกี่ยวกับกระบวนการทำงานทาสีป้าย Tower เส้นทางภาคใต้ซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการ 3 งาน
หลังจากการเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกันได้มีข้อสรุปให้มีการปรับแผนงาน ระบุจำนวนการเบิกจ่ายส่วนงานหลัก และส่วนงานเพิ่ม ทั้ง 3 งาน โดยให้แล้วเสร็จ และส่งมอบงานภายในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 วันที่ 16 ธันวาคม 2565 และวันที่ 26 ธันวาคม 2565 โดย ผู้ว่าจ้าง จะเบิกจ่ายเงิน ในวันที่ 27 ธันวาคม 2565 หลังดำเนินงานพร้อมส่งมอบ งานแล้วเสร็จในวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ตามที่ผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้างได้ตกลงกัน ซึ่ง ทำหนังสือบันทึกข้อตกลงร่วมกันนี้อีกครั้ง เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 กระทั่ง วันที่ 8 ธันวาคม 2565
อยู่ๆ ทางผู้ว่าจ้างได้ออกหนังสือบอกเลิกสัญญาว่าจ้างงานทาสีป้าย Tower ภาคใต้ โดยระบุสาเหตุออกมา 12 ข้อ สาเหตุส่วนหนึ่งในหนังสือบอกเลิกสัญญาว่าจ้าง ระบุว่า ผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติงานตามแผน ไม่แจ้งวันเข้าทำงานให้ชัดเจน เกิดความเสียหายในระหว่างทำงาน เพิกเฉยต่อคำกล่าวตักเตือน รวมถึงการใช้คำพูดกระทบกระทั่งระหว่างกัน
เมื่อการเจรจาจากปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายไม่เป็นผล ทางด้านนางสาวชุลีพร ซึ่งเป็นแฟนสาวของนายบัญชา(นามสมมุติ)จึงเดินทาง ไป แจ้งความร้องทุกข์ ที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
โดยนางสาวชุลีพร ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ได้รับงานโดยผู้ว่าจ้าง ให้ทาสีป้ายจำนวน 6 งาน รวมเป็นเงินค่าจ้างจำนวน 620,000 บาทโดยจะจ่ายเป็นงวด เมื่องานดำเนินการเสร็จ แต่ละขั้นตอนครั้งละประมาณ 50% และเมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วจะโอนเงินยอดที่เหลืออีก 40% เมื่อทำสำเร็จ และ โอนเงินที่เหลืออีก 10 % เป็นอันจบงาน แต่เมื่อทำงานไปได้ประมาณ 30% ทางบริษัทของผู้ว่าจ้าง ได้ออกหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง โดยที่ให้เหตุผลว่าไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว
ทำให้ตนเองและแฟนได้รับความเสียหายเพราะได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์รวมถึงสีไว้แล้ว ประมาณ 200,000 บาท เมื่อโดนบอกเลิกสัญญาจึงทำให้ไม่มีเงินไปจ่ายค่าคนงาน และไม่สามารถทำงานต่อที่อื่นได้ จึงได้มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะเดินทางไปขอความเป็นธรรมต่อแรงงานจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป