วันนี้ (31 ต.ค.64) ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8,859 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 8,247 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 269 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 330 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 13 ราย มาจากเมียนมา (ช่องทางธรรมชาติ) 5 ราย, กัมพูชา และ สหราชอาณาจักร ประเทศละ 2 ราย, อุซเบกิสถาน บาห์เรน ปากีสถาน และมาเลเซีย (ช่องทางธรรมชาติ) ประเทศละ 1 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อเข้าข่ายด้วยการตรวจ ATK 3,285 ราย
เสียชีวิต 47 ราย เป็นชาย 26 ราย หญิง 21 ราย อายุเฉลี่ย 75 ปี (43-96 ปี) เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 40 ราย คิดเป็น 85% เป็นผู้มีโรคเรื้อรัง 7 ราย คิดเป็น 15%
จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศตั้งแต่ต้นปี 63 จนถึงล่าสุดอยู่ที่ 1,912,024 ราย โดยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วเพิ่มขึ้น 8,253 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 100,691 ราย อาการหนัก 2,225 ราย ในจำนวนนี้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 500 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 19,205 ราย
ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 42,247,558 ราย คิดเป็น 58.6% เข็มที่ 2 จำนวน 30,743,399 ราย คิดเป็น 42.7% และเข็มที่ 3 จำนวน 2,399,024 ราย คิดเป็น 3.3%
ขณะที่สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุดวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 247,130,550 ราย เสียชีวิต 5,010,463 ราย โดยประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุด อันดับแรก สหรัฐอเมริกา 46,799,970 ราย อันดับ 2 อินเดีย 34,272,677 ราย อันดับ 3 บราซิล 21,804,094 ราย อันดับ 4 สหราชอาณาจักร 9,019,962 ราย และอันดับ 5 รัสเซีย 8,472,797 ราย ส่วนประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 24