ภูมิภาค
“โกจู๋” นำลูกทีมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่สู้ศึกเลือกตั้งเทศบาลนครเมืองคอน
วันจันทร์ ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 10.10 น.
คลิกที่นี่
ที่บริเวณสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช “โกจู๋” นายวิฑูรย์ อิสระพิทักษ์ หัวทีมนครธรรมาภิบาลประชารัฐ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช หมายเลข 1 พร้อมด้วยทีมบริหาร ประกอบด้วยนายไสว เขียวจันทร์,นางอัมพาพันธ์ นิลประภา , นายสุภัคหรือ รัตนพฤกษ์ขจร ,นายสินเทา บุญขวัญ,ดร.ส.สมบัติ มีสุนทร ,นายพิเชษฐ์ กวีวงศ์ประวัติ ,นายประสิทธิ์ ขันตะชล อดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทยจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ รวมทั้งผู้สมัคร ส.ท.หมายเลข 2-7 ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งแรกโดยมีประชาชนจำนวนกว่า 5,000คน นับเป็นเวทีการปราศรัยในระดับท้องถิ่นที่มีคนมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคึกคัก
โดยทั้งทั้งทีมบริการและ ส.ท.ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยชูนโยบายและสโลแกนที่ว่า ”ถึงเวลาโกจู๋ ถึงเวลาประชารัฐ-คิดถึงชาติบ้านเมืองให้มากกว่าการเมือง” โดยเฉพาะนางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “แม่จ๋า” เจ้าของธุรกิจห้างผ้าโชคดี โรงแรมปุระนคร และธุรกิจในเครือทั้งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และในกรุงเทพ ซึ่งเป็นเศรษฐีใจบุญที่แจกข้าวกล่องให้กับประชาชนในทุกวิกฤติในบ้านเมือง ทั้งอุทกภัย พายุปาบึก และโควิด-19 ซึ่งที่ปรึกษา “ทีมนครธรรมาภิบาลประชารัฐ กล่าวปราศรัยอย่างดุเดือดว่าตนไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงไม่อยากมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่มาถึงปัจจุบันนี้มนทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองถูดปล่อยปละละเลยจนเกิดปัญหาสะสมหมักหมมตามมามากมาย และเห็นว่านักการเมืองจากทุกกลุ่มทุกพรรคมองเห็นแต่ประโยชน์ตัวตัวและพวกพ้องอย่างเดียว ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและบ้านเมืองโดยรวม โดยเฉพาะนักการเมืองชื่อดังที่เคยมีตำแหน่งในรัฐบาลออกมาจัดทีมสู้ศึกเลือกตั้งพร้อมประกาศว่า “จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง”
“ ตนอยากถามว่าเมื่อก่อนมีตำแหน่งใหญ่โต มีอำนาจบารมีมากกว่านี้ทำไมไม่คิดจะทำ เพิ่งจะมาคิดได้ สำนึกได้ในวันนี้หรืออย่างไร ตนจึงตนไม่ไหวอีกแล้วต้องออกมาช่วยเหลือนายวิฑูรย์ หรือโกจู๋ นักธุรกิจที่ดีที่สุดในความรู้สึกของตน และอยากให้ชาวเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชออกมาช่วยเหลือโกจู๋ เพื่อสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มนักการเมืองที่หวังจะเข้ามากอบโกยผลประโยชน์อย่างเดียวชนะการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งเทศบาล ฯครั้งนี้ถึงเวลาแล้วจริง ๆ “ถึงเวลาโกจู๋ ถึงเวลาประชารัฐ-คิดถึงชาติบ้านเมืองให้มากกว่าการเมือง”
ทางด้านนายวิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล หรือ”โกจู๋” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช หมายเลข 1 กล่าวว่า ตนได้เชิญบุคคลผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจและความสามารถในทุก ๆ ด้านมาร่วมด้วยช่วยกันในการพัฒนาบ้านเมืองใหก้เจริญรุ่งเรืองอย่างเป็นรูปธรรมจริงจังเสียที ในอดีตตนเป็นนักธุรกิจไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง จนกระทั้งต้องตัดสินใจเข้าร่วมกับ ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ ลงสมัคร ส.ท.จนชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2554 ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ เป็นนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช ตนเป็น ส.ท.เขต 3 และรองประธานสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช แต่ทุกคนต้องผิดหวังเป็นอย่างมากกับ ผศ.เชาวน์วัศ เสนพงศ์ ที่ไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา ตนและ ส.ท.หลายคนจึงแยกตัวมาจัดตั้งกลุ่ม “นครธรรมาภิบาล” ทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารและใช้จ่ายงบประมาณผ่านโครงการต่างๆ ในสภาเทศบาล ฯ จนสามารรถยับยั้งโครงการต่าง ๆ ที่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากมาย ซึ่งชาวเมืองนครจะสูญเสียผลประโยชน์ในขณะที่นักการเมืองจะได้ผลประโยชน์มหาศาล พร้อมกันนี้ในช่วง 9 ปี 8 เดือนที่ผ่านมาตนและทีม “นครธรรมาภิบาล” ได้ออกดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
“ในครั้งนี้ตนได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และนักธุรกิจมากมาย อาทิ นายไสว เขียวจันทร์ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมปศุสัตว์ อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช นายสุภัค รัตนพฤกษ์ขจรหรือ “โกเปี๊ยก” อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช นายพิเชษฐ์ กวีวงศ์ประวัติ อดีต ส.ท.นคร นครศรีธรรมราช และประธานชมรมมวยไทยและคณะกรรมการสมาคมกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสินเทา บุญขวัญ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนคร นครศรีธรรมราช (ณ.นครอุทิศ) ดร.ส.สมบัติ มีสุนทร อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช นายประสิทธิ์ ขันตะชล อดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทยจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้ นางอัมพาพันธ์ นิลประภา หรือ “แม่จ๋า” เศรษฐินีใจบุญเจ้าของห้างผ้าโชคดีและโรงแรมปุระนครและธุรกิจในเครือ รวมทั้ง อดีต ส.ท.นคร นครศรีธรรมราชอีกหลายคนที่มีความรู้ความเข้าใจและความสามารถในทุก ๆ ด้าน มาร่วมด้วยช่วยกันในการจัดทำยุทธศาสตร์และแนวนโยบายการพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองอย่างเป็นรูปธรรมตามความต้องการของประชาชนอย่างจริงจังเสียที ”
“ตนไม่ได้มาทวงสัญญาจากประชาชน แต่มาตามสัญญาที่ประชาชนเรียกร้องว่าให้ตนเข้ามาช่วยบริหารเทศบาล ฯ เพื่อบ้านเมือง โดยคนในเขตเทศบาล ฯพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถึงเวลาโกจู๋ ถึงเวลาประชารัฐ คิดถึงชาติบ้านเมืองให้มากกว่าการเมือง” และเชื่อว่าทีมนครธรรมาภิบาลประชารัฐ “เข้าถึงง่าย ทำงานไว และเป็นคนของชุมชนอย่างแท้จริง” เพราะตนเป็นคนในพื้นที่เกิดที่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.สครศรีธรรมราชและอาศัยอยู่ที่เดิมมาตั้งกำเนิด 64 ปีแล้วตนไม่เคยหนีไปจากพื้นที่แม้แต่วันเดียว ตนเกิดตรงนี้และตายตรงนี้ ทำให้รู้ปัญหาของชาวเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเป็นอย่างดี จึงพร้อมแล้วที่จะอาสาทุ่มเททำงานรับใช้บ้านเกิดเมืองนอนเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด เพื่อเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปสู่การพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมเสียที ก่อนที่คนรุ่นนี้จะส่งไม้ต่อให้รุ่นลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปรับช่วงในการสานต่อหรือต่อยอดการพัฒนาบ้าสนเมืองอย่างถูกทิศถูกดทางต่อไปในอนาคต แต่การที่จะเปลี่ยนแปลงการเมืองในเทศบาลนคร นครศรีธรรมราชและสกัดกั้นกลุ่มการเมืองที่หวังเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ในครั้งนี้ตนทำคนเดียวไม่ได้ อยู่ที่ประชาชนทุกคน ทุกคะแนนเสียงที่จะเลือกตน “โกจู๋” เบอร์ 1 และผู้สมัคร ส.ท. 2-7 ยกทีมทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง” จึงจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้จริง.
คลิกที่นี่