นครศรีธรรมราช – แม่ทัพภาคที่ 4 สนธิกำลังทหารเข้าร่วมตรวจเข้มอุบัติเหตุจราจร คัดกรองโควิด-19 หลังในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช สะสมระลอกใหม่ 4 ราย จากคลัสเตอร์ทองหล่อ พร้อมเผยมาตรการเข้มงวดชายแดนไทย-พม่า ทั้งทางบก และทางทะเล
วันนี้ (9 เม.ย.) ที่บริเวณจุดตรวจริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฎร์ธานี ช่วงหน้าโรงพยาบาลท่าศาลา ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เข้าตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้สนธิกำลังเข้าตั้งจุดตรวจจุดสกัด และจุดคัดกรองโควิด-19 โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบแต่ละพื้นที่จัดกำลังมาร่วมปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมกันลดอุบัติเหตุให้เป็นไปตามเป้าหมาย
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า นอกจากการสนธิกำลังปฏิบัติการร่วมกับทุกฝ่ายในมาตรการลดอุบัติเหตุ และคัดกรองโควิด-19 แล้วนั้น ในส่วนของกำลังพลกองทัพภาคที่ 4 ยังได้จัดวางกำลังเฝ้าระวังชายแดน โดยเฉพาะชายแดนไทย-พม่า ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 4 ป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนอย่างเป็นระบบ ในส่วนทางทะเลนั้นมีกองทัพเรือ และ ศรชล.ในการเฝ้าระวังอย่างน้อยถึง 3 ชั้น การปฏิบัติการเป็นไปอย่างเข้มข้น
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปยอดการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อในห้วง 2 วันที่ผ่านมา ล่าสุดนั้นพบผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 4 ราย มี 2 รายเกิดจากการติดเชื้อจากกลุ่มดาราที่มาส่งมอบสนามฟุตบอลให้โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พิปูน และอีก 2 รายนั้นเป็นนักธุรกิจในพื้นที่ที่พบว่าติดเชื้อจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ
สำหรับมาตรการได้มีการยกระดับเพิ่มขึ้นอีก 2 เรื่อง คือ การปิดสถานบริการ หรือสถานที่คล้ายสถานบริการ เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ เป็นต้น เป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วจะมีรายละเอียดที่ชัดเจนแจ้งให้ทราบอีกครั้ง และมาตรการการเดินทางเข้ามาในจังหวัด ยังไม่ประกาศเหมารวมว่ามาจากจังหวัดเสี่ยงต้องกักตัว โดยจะพิจารณารายละเอียดเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น คลัสเตอร์ทองหล่อ จะไม่เหมารวมว่ากรุงเทพฯ ทั้งหมดต้องกักตัว แต่ต้องแสดงให้รู้ว่าถ้ามาจากกรุงเทพฯ ต้องแสดงประวัติ ลงรายละเอียดให้เจ้าพนักงานควบคุมโรครู้ว่าท่านไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงตามไทม์ไลน์ที่ปรากฏ และมีเหตุจำเป็นในการเดินทางเข้ามา ก็จะได้รับการวินิจฉัยพิจารณาจากเจ้าพนักงานควบคุมโรค ส่วนมาตรการที่จะนำไปสู่การกักตัวต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน กรณีแรกที่พบว่ามีอุณหภูมิสูง ประวัติไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มคลัสเตอร์ หรือประวัติอยู่ในไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายใดรายหนึ่ง อาจจะต้องคุมไว้สังเกตอาการ แยกกักเพื่อสวอปเชื้อทันที