นครศรีธรรมราช – เจ้าหน้าที่เร่งกู้เรือประมงล่ม หลังฝนตกหนักคลื่นลมแรงซัดเรือ 30 ลำ หลุดจากท่า ยังไม่พบอีก 11 ลำ ล่มแล้ว 1 เร่งกู้หลังพบเติมน้ำมันดีเซลกว่า 9,200 ลิตร ก่อนเกิดเหตุหวั่นรั่วลงทะเล
วันนี้ (8 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนได้เร่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือเรือประมง ท.ร.พาลีช่วย ของนางพรพนา เสมาพัฒน์ ซึ่งกระแสน้ำซัดออกจากปากอ่าวด่านภาษี ม.9 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังนำมาจอดเทียบท่าเพื่อหลบคลื่นลมแรงเมื่อกลางดึกวันที่ 6 เม.ย. ซึ่งมีฝนตกหนัก คลื่นลมแรงได้ซัดเรือประมงที่จอดอยู่ออกไปกลางทะเลถึง 30 ลำ โดยเจ้าของเรือและไต้ก๋งเรือได้ช่วยกันนำกลับเข้าฝั่งได้ 19 ลำ ยังเหลืออยู่อีก 11 ลำที่ยังลอยอยู่ในทะเล ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตาม
นายอภินันท์ เชาวลิตร นายก อบต.ท่าศาลา เปิดเผยว่า ได้ประสานกับเรือลากแร่ขนาดใหญ่เพื่อนำมาชักลากเรือที่ล่ม โดยต้องมีการนำผ้าใบมาคลุมเรือไม่ให้น้ำเข้าเพิ่มเติม หลังจากนั้นจะพยายามพยุงเรือให้ตั้งลำให้ตรงแล้วเร่งสูบน้ำออกเพื่อให้เรือลอยลำขึ้นมาได้อีกครั้ง แต่จะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเนื่องจากทราบว่าเรือลำนี้เพิ่งเติมน้ำมันดีเซลเกือบ 1 หมื่นลิตร เตรียมที่จะออกทะเล แต่มาเกิดเหตุไม่คาดฝันก่อน
นางพรพนา เสมาพัฒน์ เจ้าของเรือ เปิดเผยว่า มีเรืออยู่ลำเดียวทำมาหากินกับบุตรสาว 2 คนแม่ลูก ส่วนสามีเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน ใช้ทำมาหากิน 12 ปีแล้ว และคิดจะขายเพราะมีกัน 2 คนแม่ลูกทำไม่ไหว ยิ่งช่วงนี้น้ำมันแพงไม่คุ้มทุน ก่อนเกิดเหตุไม่นานซ่อมเรือไป 7 แสนกว่าบาทกลับมาประสบเหตุ อยากวิงวอนให้รัฐบาลช่วยซื้อเรือกลับ เคยลงชื่อกับโครงการที่รัฐจะซื้อเรือเมื่อ 2 ปีก่อนแต่เห็นเงียบหายไป และไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้มีการรื้อโครงการนี้ขึ้นมาอีก จึงอยากให้มีการซื้อกลับเพราะแบกรับภาวะการขาดทุนจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้นในขณะนี้ไม่ได้แล้ว