“เฉลิมชัย” ลงนาแปลงใหญ่ที่หัวไทร เปิดงานถ่ายทอดเทคโนโลยีฯ ผลิตข้าว ชูเกษตรแปลงใหญ่พลิกชีวิต พร้อมหนุนศูนย์ข้าวชุมชน ร่วมผลิตเมล็ดพันธุ์มาตรฐาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานการจัดงานถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2566 เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2566 ณ องค์การบริหารส่วนตำบลหัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตให้กลุ่มชาวนาผู้ปลูกข้าว (กลุ่มนาแปลงใหญ่ ศูนย์ข้าวชุมชน) โดยให้ชาวนาร่วมกันบริหารจัดการ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยี และนำเสนอองค์ความรู้ด้านการลดต้นทุนการผลิตข้าวให้แก่เกษตรกร นำไปประยุกต์ใช้
ดร.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับนโยบายตลาดนำการผลิต จึงสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ เพื่อให้สามารถควบคุมผลผลิตและราคาได้ โดยเชื่อมั่นว่า แนวทางของโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่เดินมาถูกทางแล้ว เนื่องจากสร้างประโยชน์โดยตรงแก่เกษตรกร คือ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐมากขึ้น ช่วยให้เกษตรกรเรียนรู้และวางแผนการดำเนินงานอย่างเป็นระบบร่วมกันตลอดห่วงโซ่อุปทาน สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยกระดับมาตรฐานผลผลิต ซึ่งเกษตรกรสามารถกำหนดชนิดผลผลิตตามความต้องการของตลาดได้ และภาครัฐยังสามารถช่วยกำหนดตลาดล่วงหน้าให้ได้ด้วย อีกทั้งการรวมกลุ่มกันจะสร้างอำนาจต่อรองให้เกษตรกร โดยไม่ต้องตกอยู่ภายใต้การเอาเปรียบจากคู่ค้า และมีโอกาสในการขยายตลาดไปช่องทางต่างๆ รวมถึงตลาดต่างประเทศ ได้มากขึ้น
ดร.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า สำหรับข้าวคุณภาพดีส่วนหนึ่งจะต้องมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีมาตรฐาน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการทำนา ในขณะที่เราต้องการผลิตข้าวคุณภาพดีให้ได้ปริมาณมากเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออกเพื่อนำรายได้เข้าประเทศมากเท่าใด เราก็ต้องการปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้มาตรฐานปริมาณมากตามไปด้วย โดยในภาครัฐที่ผลิตโดยศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีการผลิต 2565/66 มีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีได้ประมาณ 95,000 ตัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อปริมาณความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวของทั้งประเทศ ที่อยู่ประมาณ 1.33 ล้านตัน ซึ่งศูนย์ข้าวชุมชนเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญ และใกล้ตัวเกษตรกรที่สุดที่จะมาเติมเต็มปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีที่ยังขาดแคลนตามหลักการของศูนย์ข้าวชุมชนที่ผลิตเมล็ดพันธุ์เอง แล้วกระจายไปสู่ชุมชนของตนเองและชุมชนข้างเคียงอย่างมีคุณภาพ
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะไม่ทอดทิ้งเกษตรรายย่อย พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง หากเกษตรกรมั่นคงและมั่งคั่ง จะทำให้เศรษฐกิจมีการหมุนเวียน และทำให้ประเทศชาติมั่นคงตามไปด้วย.