วันอาทิตย์ ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 16.58 น.
“อลงกรณ์”ชี้เลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช เขต 3 พิสูจน์ 3 ศรัทธา ย้ำประชาธิปัตย์ยึดกติกาประชาธิปไตยสุจริต ชูผลงานยุคทำได้ไวทำได้จริง มั่นใจรัฐบาลรักษาเสียง ส.ส.ได้
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพัน64 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค กล่าวว่า เลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นครศรีธรรมราช เขต 3 จะเป็นการพิสูจน์ 3 ศรัทธาของประชาชน คือ ศรัทธาต่อรัฐบาล ศรัทธาต่อพรรค และศรัทธาต่อผู้สมัคร ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะยังสามารถรักษาเสียง ส.ส.ได้เช่นเดิม เมื่อพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 และวิเคราะห์จากผลการเลือกตั้ง ส.ส.ของนครศรีธรรมราช เขต 3 ผู้สมัครในสังกัดรัฐบาลมีคะแนนอยู่ในอันดับที่ 1 ถึง 3 โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.คือ นายเทพไท เสนพงศ์
สำหรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ จะยึดกติกาการเลือกตั้งบนแนวทางสุจริตยุติธรรม มุ่งนำเสนอวิสัยทัศน์นโยบายและผลงานทั้งระดับชาติ และจังหวัดในยุคทำได้ไวทำได้จริง ภายใต้การนำของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค
ทั้งนี้ ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรค ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น.ที่สำนักงานใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ครั้งนี้ โดยเน้นการเข้าถึงประชาชนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ นำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่ๆ และผลงานพรรคจากอดีต ปัจจุบันและอนาคต เช่น
1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น โครงข่ายถนนสี่เลน , รถไฟ 4 รางทางคู่ทั่วประเทศ การส่งเสริมการลงทุนในภูมิภาค การพัฒนาสนามบินและท่าเรือในภูมิภาค การขยายโครงข่ายไอซีที โครงการพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ดสู่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (Southern Economic Corridor) และระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล
2.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ยกระดัยคุณภาพชีวิตและกระจายโอกาสลดเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการมหาวิทยาลัยในภูมิภาคโครงการนมโรงเรียน , โครงการอาหารกลางวันนักเรียน , กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ , โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ , เริ่มต้นค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 600 บาท , ยกฐานะโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) การพัฒนาฝีมือแรงงานและคุณวุฒิวิชาชีพ การส่งเสริมการออม การส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ (LGBT)
3.การพัฒนาทัองถิ่นชนบทและพัฒนาประชาธิปไตยฐานราก โดยนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นยกฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จากสภาตำบลเป็นองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จากสุขาภิบาลเป็นเทศบาล และเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาขิกสภาโดยตรงจากประชาชน
4.การพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ เศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจบนฐานพลังงานหมุนเวียน เช่น โครงการเอทานอล
5.การลดความเหลื่อมล้ำ โดยกระจายการถือครองที่ดินให้เกษตรกรและชุมชน โดยมาตรการโฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน และการปฎิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร
6.การปฏิรูปภาคเกษตรด้วยโครงการประกันรายได้เกษตรกร การจัดตั้งและขับเคลื่อนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม 77 จังหวัด เพื่ออัพเกรดภาคเกษตร ด้วยวิทยาการและเทคโนโลยี โครงการประมงชุมชนและชลประทานชุมชนและการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรรายย่อยโดยกลไกกองทุน กฟก. ฯลฯ
“สำหรับวิสัยทัศน์ จ.นครศรีธรรมราช คือ นครแห่งอารยธรรม น่าอยู่ น่าเที่ยว การเกษตรและอุตสาหกรรมยั่งยืน ซึ่งได้พัฒนาต่อเนื่อง มีศักยภาพพร้อมทุกด้านที่จะต่อยอดให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาของภาคใต้ตอนกลาง ทั้งด้านการศึกษา การค้า การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และเกษตรอุตสาหกรรม (Agroindustry) เช่น โครงการนิคมอุตสาหกรรมยาง (Rubber Valley) โครงการศูนย์แห่งความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีเกษตรอาหารและผลไม้ โดยมี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ที่ทีบทบาทสำคัญยิ่ง อนาคตของนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งเดียวกับอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด และเป็นอีกครั้งที่พรรคประชาธิปัตย์จะขอโอกาสในการทำงานเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันกับพี่น้องชาวนครศรีธรรมราช ด้วยวิสัยทัศน์และการทำงานแนวใหม่ โดยคนรุ่นใหม่ คือ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็นตัวแทนพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้” นายอลงกรณ์ กล่าวในที่สุด