นครศรีธรรมราช – เหยื่อถูกรุมแทง 39 แผลปางตายร้องคดีไม่คืบหวั่นถูกย้อนมาปิดปาก ขอตำรวจเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา พบความเคลื่อนไหวของคนร้ายผ่านสังคมออนไลน์ ยังเที่ยวเตร่ทุกคืนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันนี้ (1 มี.ค.) นายณัฐนันท์ เพชรา อายุ 19 ปี ชาวหมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมืองนครศรีธรรมราช โชว์สภาพร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยแผลเป็นทั้งร่าง หลังจากได้รับการรักษาจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช จากอาการบาดเจ็บถูกรุมแทงจากกลุ่มชายวัยรุ่น ถึงขั้นไตทะลุ ปอดทะลุ ตับเป็นแผลฉกรรจ์ ลำไส้ใหญ่แตก อาการเข้าขั้นตรีทูต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ที่บริเวณปากซอยพัฒนาการคูขวาง 102 ถนนพัฒนาการคูขวาง เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยผู้บาดเจ็บรายนี้ได้รักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ในหอผู้ป่วยวิกฤต หรือเอ็มไอซียู นานกว่า 1 สัปดาห์จนอาการดีขึ้นรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ แต่สภาพร่างกายไม่กลับคืนดังเดิมจากความเสียหายร้ายแรงของอวัยวะภายใน
ในเรื่องนี้ นางอัจฉรา รวมพงศ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/2 หมู่ 1 ต.นาทราย อ.เมืองนครศรีธรรมราช มารดาของนายณัฐนันท์ ได้ร้องกับทีมข่าวอีกครั้งหลังจากที่ นายณัฐนันท์ ได้รักษาตัวที่ รพ.กว่า 1 เดือน และได้ออกมาอาศัยอยู่ที่บ้านยังอยู่ในอาการหวาดผวา เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะกลับมาทำร้าย เนื่องจาก นายณัฐนันท์ จำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้อย่างน้อย 5 คน จากทั้งหมดร่วม 20 คนที่เข้ามาใช้อาวุธมีดแทงถึง 39 แผล
ขณะเดียวกัน นางอัจฉรา ยังแสดงความกังวลและเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา เมื่อไปติดตามคดีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแล้ว 3 คน อยู่ในระหว่างการฝากขังผลัดที่ 4 และอยู่ในระหว่างการรอใบชันสูตรบาดแผลของโรงพยาบาลที่ยังไม่แล้วเสร็จ แต่กลับพบว่าเมื่อติดตามความเคลื่อนไหวของคนร้ายผ่านสังคมออนไลน์ ยังคงมีการเที่ยวเตร่สถานบริการทุกคืน มีการแสดงตัวเองผ่านสังคมออนไลน์ยิ่งทำให้หวาดกลัว หากพาลูกๆ ไปไหนต้องให้เขาปิดหน้าสวมหมวก เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกลุ่มผู้ต้องหาทำร้ายอีกครั้ง
ขณะที่ นายณัฐนันท์ ได้ระบุว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา อยากให้มีความคืบหน้ามากกว่านี้ ส่วนตนเองนั้นรอดชีวิตมาได้ในสภาพที่ไม่สามารถเดินตัวตรงได้เหมือนเดิม แขนมีอาการชาจากคมมีดที่ตัดเส้นประสาท เหนื่อยง่ายจากอาการปอดทะลุ ไตทะลุ และยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องใดๆ กับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน เหตุเกิดขึ้นเพียงแค่ขณะขับรถกลับบ้านแล้วถูกคนร้ายทั้งหมดตามมารุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการกับกลุ่มผู้ต้องหาไม่ให้ไปก่อคดีกับใครอีก