เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
“เม พรีมายา” มีชื่อจริงว่า “พิชญ์รี ตันติวิทย์” ชื่อเล่นคือ “เม” เกิดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2537 เป็นชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช
หลังมีชื่อเสียงในฐานะนักธุรกิจหญิงอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “พรีมายา” (PRIMAYA) เธอได้เล่าถึงชีวิตของเธอให้ฟังว่าครอบครัวเธอประกอบอาชีพเปิดร้านขายของชำและทำสวนยางพารา บ้านไม่มีน้ำประปา ถนนเป็นดินลูกรัง เรียนโรงเรียนวัด
ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 เริ่มธุรกิจขายน้ำอะโวคาโด จากนั้นทำสบู่แบรนด์ของตัวเองขาย ด้วยความที่เป็นสาวหน้าตาดี มีดีกรีเป็นดาวโรงเรียน เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ทำให้มีฐานผู้ติดตามเธอในสังคมออนไลน์จำนวนหนึ่งและทำให้การไลฟ์ขายของได้รับการตอบรับที่ดี ขายได้ครั้งละ 30,000-40,000 บาท
หลังเลิกทำแบรนด์เครื่องสำอาง MAYA เธอหันมาทำอาหารเสริมแบรนด์ PRIMAYA ในปี 2558 โดยระบุว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นเงินลงทุนก้อนสุดท้ายหลังจากที่ทางบ้านจะไม่ส่งเงินให้เธอใช้แล้ว ก่อนจะจดทะเบียนการค้าในปี 2560 ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าตัวก็โด่งดังมีสื่อนำเสนอเรื่องของเธออยู่บ่อยครั้ง
ขณะที่เธอเองก็มีการโพสต์ไลฟ์สไตล์ที่หรูหราผ่านสังคมออนไลน์ร่วมกับสามี “แซก สิทธานต์ สรรเสริญ” อยู่ตลอดเวลา ทั้งอวดว่าซื้อของแบรนด์เนมจำนวนมากๆ ภาพกองเงิน ซื้อคอนโดหรูด้วยเงินสด ฯลฯ
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบในการทำธุรกิจของ “เม พรีมายา” จากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าเธอเป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ไล่ไปตั้งแต่ บริษัท พริมยา คลินิก จำกัด ดำเนินธุรกิจประเภท กิจกรรมคลินิกโรคทั่วไปถือหุ้นจำนวน 2,700 หุ้น มูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบัน 448,291 บาท
บริษัท พริมยา ไพรม์ เมดิคอล จำกัด ไม่ระบุประเภทธุรกิจ ถือหุ้นจำนวน 16,667 หุ้น, บริษัท พรีม่า มายา จำกัด ดำเนินธุรกิจประเภท ขายปลีกเครื่องสำอาง ถือหุ้นจำนวน 8,000 หุ้น มูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบัน 9,046,362 บาท
บริษัท เอทูเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด ดำเนินธุรกิจประเภท นำเข้าส่งออก ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ ผลิตภัณฑ์บำรุง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ถือหุ้นจำนวน 7,000 หุ้น มูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบัน 560,710 บาท
ขณะที่ในส่วนของบริษัท พรีม่า มายา จำกัด นั้นระบุว่าบริหารโดย เม พิชญ์นรี ตันติวิทย์ และ แซก สิทธานต์ สรรเสริญ ดำเนินธุรกิจประเภท จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 แต่ได้ทำการจดทะเบียนก่อตั้งธุรกิจวันที่ 21 มีนาคม 2560 ทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 1 ล้านบาท
มีผลประกอบการย้อนหลังคือ ปี 2560 รายได้ 748,021.00 บาท กำไร 610.72 บาท, ปี 2561 รายได้ 1,920,822.47 บาท กำไร 450,683.04 บาท, ปี 2562 รายได้ 8,649,550.78 บาท กำไร 472,200.38 บาท, ปี 2563 รายได้ 21,962,998.24 บาท กำไร 1,343,321.39 บาท. ปี 2564 รายได้ 33,632,860.48 บาท กำไร 8,041,136.68 บาท
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกหมายจับเจ้าตัวก็มาจากการที่ก่อนหน้านี้ในสังคมออนไลน์ได้มีหลายคนโพสต์ชวนลงทุนทำธุรกิจโดยระบุว่าลงทุนเพียง 6,000 บาท ใช้เวลาเพียง 3 เดือน ได้กำไร 15 ล้านบาท พร้อมภาพตัวแทนจำหน่ายถ่ายภาพคู่รถหรูในโชว์รูม
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตรวจสอบก็พบว่าหลายคนที่มีการโพสต์ภาพดังกล่าวนั้นไม่มีการซื้อรถจริงๆ แต่เป็นการทำโฆษณาให้กับธุรกิจอาหารเสริมแบรนด์ PRIMAYA ก่อนที่นายอัจริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเข้าแจ้งความ กับผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ (22 ส.ค.65) เพื่อดำเนินคดีกับ แบรนด์ PRIMAYA
นั่นเองจึงเป็นที่มาการออกหมายจับ การออกตรวจค้นและตั้งค่าหัวเจ้าตัวที่ 5 แสนบาท ก่อนที่ในช่วงเย็นของวันนี้ทางด้านของน.ส.พิชญ์รี จะเข้ามอบตัวพร้อมทนายและให้สัมภาษณ์ยืนยันไม่ได้โกหกให้ใครมาลงทุนและยืนยันว่าสามารถทำกำไรได้จริงตามที่โฆษณา