ภูมิภาค
พาณิชย์อัดฉีดเงิน 5 ล้านช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียว
วันเสาร์ ที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 20.01 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
จากสถานการณ์ราคาพริกเขียวมันในจังหวัดนครศรีธรรมราชตกต่ำ เหลือกิโลกรัมละ 7 – 10 บาท ในขณะทีต้นทุนการผลิตอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด และอำเภอเมือง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยผลผลิตส่วนใหญ่นั้นจะส่งออกไปยังประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ไม่ได้ใช้บริโภคในประเทศ แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศผู้นำเข้า อีกทั้งตรงกับเดือนรอมฎอน ทำให้มีการชะลอการสั่งซื้อพริกจากประเทศไทย ส่งผลให้มีพริกตกค้างอยู่ในสวนของเกษตรกรเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมัน วันนี้(8 พ.ค.64) เวลา 14.30 น. กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เปิดจุดรับซื้อตามโครงการเพิ่มช่องทางและเชื่อมโยงการจำหน่ายพริกเขียวมันในกลุ่มแหล่งผลิตภาคใต้ ปี 2564 จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายเอกชัย สุนทร นายอำเภอหัวไทร พาณิชย์จังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดนครศรีธรรมราช สมาชิกสภาราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ ร่วมตรวจเยี่ยมจุดรับซื้อพริกเขียวมันพร้อมพบปะเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมัน ที่หมู่ที่ 6 ต.ทรายขาว อ.หัวไทร
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลโดยนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สนับสนุนเงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเป็นชดเชยราคาให้เกษตรกรกิโลกรัมละ 5 บาท ซึ่งมีเป้าหมายในการช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 1,000 ตัน ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม กรกฎาคม 2564 โดยพ่อค้าจะรับซื้อในราคาตลาด ซึ่งก็คือกิโลกรัมละ 9 บาท ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะชดเชยให้ในราคากิโลกรัมละ 5 บาท เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการก็จะได้รับเงินจากการเข้าร่วมโครงการกิโลกรัมละ 14 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ โดยมีโควตาในโครงการนี้จำนวน 1,000 ตัน ได้เริ่มดำเนินเปิดจุดในท้องที่อำเภอหัวไทรเป็นอำเภอแรก จำนวน 5 จุด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการจำหน่ายผลผลิตในห้วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังกล่าว อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฎอนราคาพริกเขียวน่าจะขยับขึ้นถึงกิโลกรัมละ 15 บาทอย่างแน่นอน
นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวให้ความมั่นใจกับเกษตรกรว่า เงินที่รัฐบาลสนับสนุนช่วยเหลือมาถึงมือเกษตรโดยตรงอย่างแน่นอน โดยจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะกรรมการดำเนินโครงการดังกล่าวขึ้นมา 3 ชุด ชุดที่ 1 มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธาน ชุดที่ 2 มีพาณิชย์จังหวัดเป็นประธาน และชุดที่ 3 มีเกษตรจังหวัดเป็นประธาน เพื่อตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูก จำนวนเกษตรกร ผลผลิต และพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิและสมยอมกันของเกษตรกรกับพ่อค้าคนกลาง โดยเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวจะได้รับการช่วยเหลืออย่างเท่าเทียมกันทั้งที่ขึ้นทะเบียน และไม่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมัน โดยเกษตรจะได้รับเงินชดเชยหลังจากซื้อขายพริกไม่เกิน 7 วันทำการ จะมีการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรโดยตรง นอกจากนี้จังหวัดยังได้เสนอของบประมาณจากโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมันและเกษตรกรผู้ปลูกฟักทองด้วย
สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช ปีนี้มีพื้นที่ปลูกพริกเขียวมัน จำนวน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด และอำเภอเมือง พื้นที่เพาะปลูกประมาณ 7,800 ไร่ เกษตรกรจำนวน 2,122 ราย ผลผลิตประมาณ 20,163 ตัน เฉพาะอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเกษตรกรผู้ปลูกพริกเขียวมัน ทั้ง 11 ตำบล ประมาณ 1,050 ครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 3,675 ไร่ ผลผลิตประมาณ 10,046 ตัน ผลผลิตออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน เมษายน- กันยายน แต่มีปริมาณมากสุดในเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2564.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่