เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 19-22 กรกฎาคม ว่า ขณะนี้รัฐมนตรีผู้ถูกอภิปรายทั้ง 11 คน โดยเฉพาะรัฐมนตรี 3 คนจากพรรค ปชป. ทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมและข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อตอบข้อกล่าวหาที่ฝ่ายค้านได้เขียนเอาไว้ในญัตติฯ มากพอสมควรแล้ว
ซึ่งจากเท่าที่ตนอ่านญัตติฯ แล้ว มีความเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบคำถามได้ เพราะในญัตติที่พรรคฝ่ายค้านเขียน เช่น การกล่าวอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศทำให้ประชาชนในชาติแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้างขึ้นมากกว่าเดิมนั้น ต้องย้อนกลับไปว่า พรรคการเมืองใดที่เคยใช้มวลชนมาเป็นเบี้ยทางการเมือง พอสมประโยชน์แล้วก็ปล่อยทิ้งอย่างไม่ไยดี และยังมีความพยายามที่จะปลุกมวลชนเพื่อสนองความต้องการในการเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึง อีกทั้ง มีกลุ่มการเมืองนอกจากจะแบ่งแยกประชาชนเป็นคนรุ่นนั้นรุ่นนี้แล้ว ยังเจริญรอยตามโดยการมีมวลชนที่พร้อมจะจัดทัวร์เพื่อให้ลงในพื้นที่ส่วนตัวของบุคคลอื่นๆ ในโลกออนไลน์และออฟไลน์
นายชัยชนะ กล่าวว่า ส่วนกรณีของนายจุรินทร์ ที่ระบุว่า ล้มเหลวและไร้ความรู้ความสามารถ ปล่อยให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้นจนกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน จนส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกหย่อมหญ้านั้น หากฝ่ายค้านติดตามการทำงานของนายจุรินทร์ ก็จะพบว่า นายจุรินทร์ ได้ใช้ทั้งไม้นวมและไม้แข็ง ในการดูแลเรื่องราคาสินค้า ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งล่าสุดขณะนี้น้ำมันปาล์มขวดลดราคาลงมาถึง 5 บาท
รวมทั้ง ยังมีผลงานอีกมากมายในการบริหารของนายจุรินทร์ ในกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งจะมีการชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ด้วย ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่มีรายชื่อนั้น ผมเชื่อมั่นว่าสามารถชี้แจงและใช้โอกาสนี้ในการบอกเล่าผลงานให้ ส.ส.ทั้งสภาและประชาชนทั้งประเทศ ได้รับทราบ เพราะดูเหมือนว่า ผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมานั้น ถูกนักการเมืองบางรายได้บิดเบือนด้วยคำพูดที่เปรียบเสมือนกับเป็น ‘แผ่นเสียงตกร่อง’ จนทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ถึงแม้จะมีความเคลื่อนไหวของบรรดา ส.ส. ในพรรคเล็กๆ ที่มีการเจรจาต่อรองกัน รวมทั้ง การที่พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) มีท่าทีไม่สนับสนุนการทำงานของรัฐบาล ซึ่งอาจจะสร้างความกังวลใจบ้าง แต่ผมเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ เพราะผมเชื่อว่า การทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาลก็เป็นคำตอบให้ ส.ส. และประชาชนเห็นแล้วว่า สมควรที่จะให้บริหารประเทศต่อไปจนครบวาระของสภาในช่วงเดือนมีนาคม 2566 นี้” นายชัยชนะกล่าว
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่