- Line
นครศรีธรรมราช : ข้าวเหนียวสองดัง อาหารทานเล่นที่หาทานได้ค่อนข้างยาก จัดว่าเป็นอาหารหรือขนมโบราณ ทำมาจากข้าวเหนียวนึ่งน้ำกะทิ หรือข้าวเหนียวมูน ขึ้นรูปให้เป็นแผ่นกลม ๆ แล้วนำมาทอดในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนสีผิวของข้าวเหนียวภายนอกเปลี่ยนสีไปเป็นสีน้ำตาลอมดำ มีกลิ่นความหอมที่ชวนทาน รสชาติที่กลอมกล่อม ทั้งหวาน,มัน,เค็ม,กรอบนอกนุ่มในของเนื้อข้าวเหนียว ที่หากใคร ๆ ได้ลิ้มลองเป็นต้องติดใจ
ข้าวเหนียวสองดัง เป็นขนมหรืออาหารทานเล่นสามารถทานได้ทุกเวลา มีที่มาจากข้าวที่ติดก้นหม้อหรือก้นกระทะที่ผ่านการหุงด้วยเตาฟืนในแต่ละครั้งของคนในยุคอดีต ครั้งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งคนในพื้นถิ่นภาคใต้เรียกว่า “ดังข้าว” แต่เนื่องด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การหุงข้าวด้วยเตาฟืนถูกเปลี่ยนมาเป็นหม้อข้าวไฟฟ้า จึงไม่มีดังข้าวให้ทานกันอีกต่อไป
แต่ดังข้าวก็ยังไม่หายไปเสียทีเดียว ยังพอที่จะหาทานได้บ้าง เวลามีงานหรือกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องมีการเลี้ยงคนในจำนวนมาก อย่างงานบวช,งานศพ หรือเทศกาลต่าง ๆ ต้องมีการหุงข้าวด้วยกระทะขนาดใหญ่เพื่อเลี้ยงแขก ก็จะมีข้าวก้นกระทะ หรือดังข้าวให้ทานกัน แต่ก็ไม่มากนัก และเพิ่มรสชาติด้วยน้ำปลาเพียงเล็กน้อย ข้าวดังจึงเป็นที่จับจ้องและต้องการของผู้คนที่เข้ามาในงาน โดยเฉพาะคนเฒ่าคนแก่หรือวัยกลางคนที่อยู่ในช่วงยุคก่อนมีไฟฟ้าใช้ ที่รู้จักดังข้าวเป็นอย่างดี ก็จะมีการบอกเล่าต่อ ๆ ให้กับคนรุ่นหลังฟังถึงความอร่อยของดังข้าว แม้แต่ความเชื่อที่ว่า หากใครได้ทานดังข้าวแล้ว โดยเฉพาะหนุ่ม ๆ จะไปช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสมรรถภาพทางเพศได้เป็นอย่างดี และนั่นคือที่มาของดังข้าว อาหารทานเล่นโบราณหายาก ที่คนในยุคปัจจุบันอาจไม่รู้จักและไม่เคยเห็นเลยก็ว่าได้
ปัจจุบันมีการพัฒนาปรับเปลี่ยนประยุคมาเป็นข้าวเหนียวแทน พร้อมกับเพิ่มรสชาติให้น่ารับทานมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับหนุ่มวัย 36 ปี ชื่อนายอนุชา สังค์แก้ว เจ้าของร้าน “ข้าวเหนียวสองดัง” เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 455/1 ถ.ศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ติดกับกำแพงเมืองเก่า ซึ่งเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00น. (แต่ส่วนใหญ่จะหมดก่อนเวลาทุกวัน) เนื่องจากทางร้านได้จำกัดปริมาณการขายไว้แค่เพียง 40 กิโล/วัน ซึ่งข้าวเหนียวแต่ละแผ่นจะมีน้ำหนัก 3 ขีด ใช้เวลาในการทำ 10 นาที/แผ่น หรือมากกว่า ตามความต้องการของผู้บริโภค ตลอดทั้งวันก็จะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาสั่งซื้อกันอย่างต่อเนื่อง คนละไม่ต่ำกว่า 5-10 แผ่น ไปจนถึง 20 แผ่น ขายในราคาแผ่นละ 30 บาท ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของผู้คนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เมื่อได้มีโอกาสมาครั้งใดก็จะต้องแวะเวียนเข้ามาซื้อติดไม้ติดมือกลับไปฝากให้คนที่บ้านได้รับประทานกันทุกครั้งไป
นายอนุชาได้เล่าถึงที่มาที่ไปของการเปิดร้านขายข้าวเหนียวสองดัง และจุดเริ่มต้น รวมถึงสูตรของการทำข้าวเหนียวสองดังนี้ โดยได้เรียนรู้มาจากแม่ยายซึ่งเป็นคนนครศรีธรรมราชได้ไปมีสามีอยู่ที่ จ.พังงา ซึ่งแม่ยายประกอบอาชีพทำขนมไทยขาย และแต่ละวันก็จะมีข้าวเหนียวสังขยา หรือข้าวเหนียวมูนเหลือ แม่ยายก็จะนำเอาข้าวเหนียวนั้นมาทอดเป็นข้าวเหนียวสองดังขายได้วันละ 5-10 แผ่น ซึ่งตนเองก็คิดว่าน่าจะทำได้ เพราะไม่ยุ่งยากเหมือนขนมไทยที่แม่ยายทำ แค่นึ่งข้าวเหนียวใส่น้ำกะทิ ใส่เกลือใส่น้ำตาล และเอามาขึ้นรูปทำเป็นแผ่นทอด เลยศึกษาและทดลองทำจนเกิดความชำนาญ ประกอบกับเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ จึงเริ่มต้นทำข้าวเหนียวสองดังนี้ขายเป็นจริงเป็นจัง เพราะลงทุนไม่มาก โดยก่อนหน้านี้ทำขายอยู่ริมฟุตบาทฝั่งตรงข้าม ซึ่งได้ผลตอบรับดี ลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ จึงนำเงินที่ได้มาผ่อนซื้อบ้านเปิดเป็นร้านและขยับขยายเพิ่มเป็นสาขาที่ 2 แล้วในปัจจุบัน ซึ่งสาขา 2 ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินแถวบริเวณวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
นายอนุชาเล่าต่ออีกว่า ทุกวันนี้ตนเองประสบผลสำเร็จกับอาชีพที่ทำอยู่ มีรายได้เป็นที่น่าพอใจ สามารถผ่อนบ้านผ่อนรถ เลี้ยงดูลูกเมีย รวมภถึงคนในครอบครัว และช่วยเหลือญาติพี่น้องได้ในยามเดือดร้อน และในอนาคตก็ตั้งใจที่จะขยายร้านไปตามต่างอำเภอ และต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้คนได้รับประทานกันอย่างทั่วถึง ไม่ต้องเดินทางมาไกลถึงในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ที่ผ่านมามีลูกค้าและนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย มาจากต่างอำเภอรวมถึงต่างจังหวัด แวะเวียนกันมาซื้อ มาลิ้มลองกันทุกครั้งเมื่อมีโอกาสมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
สำหรับผู้ที่สนใจต้องการนำไปประกอบอาชีพ ตนเองก็ไม่ปิดกั้น และพร้อมยินดีที่จะให้ความรู้ รวมถึงขั้นตอนวิธีการทำ โดยติดต่อสอบถามพูดคุยกับตนเองได้โดยตรงที่ร้าน เนื่องจากจะได้ความรู้อย่างละเอียด เพราะเคล็ดลับที่สำคัญของการทำนั้นอยู่ที่การใส่ใจในรายละเอียด ซึ่งอาหารทุกอย่างหากไม่ใส่ใจ อะไร ๆ ก็ออกมาไม่ดี และลูกค้าที่สนใจจะสั่งซื้อไปรับประทาน สามารถติดต่อจองคิวสั่งล่วงหน้าได้ที่เบอร์โทร/ไลน์ 064-3010129 เพื่อความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
“สำหรับกระทะที่เห็นว่ามีอยู่ 9 ใบนั้น ก็เป็นการถือเคล็ดตามความเชื่อของคนไทยที่ถือเลข 9 เป็นเลขมงคล ซึ่ง
เดิมทีช่วงที่เปิดร้านวันแรกมีกระทะถึง 15 ใบ เพราะจะต้องทำให้ทันกับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งในแต่ละครั้ง หากมาพร้อม ๆ กัน หรือสั่งมากกว่า 10 แผ่นขึ้นไป แต่ด้วยความเชื่อนั้นก็ขอปฏิบัติไว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในการค่าขาย ซึ่งลูกค้าเองก็อาจจะต้องเสียเวลารอหน่อย แต่รับประกันคุณภาพ และความอร่อย ซึ่งกระทะที่เหลือ ก็ได้นำไปตั้งไว้ให้บริการที่สาขา 2“ นายอนุชากล่าว