นครศรีธรรมราชระส่ำ รพ.พิปูนปิดพบผู้ป่วยติดโควิดหลังลูกเดินทางจากกทม.มาเยี่ยม ผอ.รพ.สิชล เผยเบื้องหลังการทำงานของพยาบาลในหอผู้ป่วยโควิดหลับคาโต๊ะ
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 นายแพทย์อารักษ์ วงษ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงเบื้องหลังการทำงานของพยาบาลในหอผู้ป่วยโควิด-19 ว่า ยอดผู้ป่วยโดยรวมเวลานี้กว่า 85 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมาเรื่อยๆ โดยใช้อาคารผู้ป่วย 7 ชั้น แยกออกจากผู้ป่วยทั่วไป รับผู้ป่วยโควิดอย่างเดียว แต่ละชั้นรับได้ 28-30 คน โดยจัดเป็นห้องรวม ล็อกละ 6 คน มี 4 ล็อก ได้ 24 คน มีห้องแยกอีก 2 ห้อง ห้องละ 2-3 คน หากเป็นครอบครัวเดียวกัน ในแต่ละชั้นจัดทีมพยาบาล 2-3 คน ผู้ช่วยพยาบาล 1 คน แพทย์ 2 คน ดูแลรวมทุกชั้น และจะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม กุมารเวชกรรม รังสี วิสัญญี เวชศาสตร์ฉุกเฉินทีมบริหาร คอยสนับสนุนที่ศูนย์รักษาผู้ป่วยโควิดด้านนอก ผู้ป่วยรับใหม่จะต้องถูกประเมินอาการ ความเสี่ยงที่จะเกิดปอดบวม ความรุนแรง คัดแยกไว้ที่ล็อกหน้าห้องพยาบาล เพื่อง่ายต่อการจัดการ
เมื่อเข้าหอผู้ป่วยทุกรายจะถูกเจาะเลือดและเอกซเรย์ปอดไว้เป็นเบื้องต้น วัดสัญญาณชีพ มอบอุปกรณ์ติดตามเช่น ปรอทวัดไข้ดิจิตอล เครื่องวัดอ๊อกซิเจนในเลือดปลายนิ้ว แนะนำการใช้เครื่องวัดความดันสอดแขนด้วยตนเอง และการส่งข้อมูลให้ทีมพยาบาลทุก 4-6 ชั่วโมง หากมีผู้ป่วยรายใด ที่มีระดับอ๊อกซิเจนในเลือดลดลง ก็จะรายงานแพทย์เพื่อเอาเครื่องให้อ๊อกซิเจนแรงดันสูงมาใช้งานทันที การให้ยาต้านไวรัส หรือแบคทีเรียอื่นๆ เป็นไปตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยโควิดแต่ละระดับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละราย
เมื่อออกไปเตรียมพร้อมเครื่องมือ แต่งกายรัดกุมชุด PPE หน้ากาก N95 ปิดทับด้วยเสื้อกันละอองฝอย เฟสชีลด์ พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์เข้าไปในห้องผู้ป่วย อาจเจาะเลือดซ้ำในบางราย เสียบสายเครื่องต่อกับอ๊อกซิเจน ต่อสายกับผู้ป่วยด้วยความชำนาญ แล้ววัดระดับการเปลี่ยนแปลงค่าอ๊อกซิเจนในเลือดเป็นระยะ สังเกตอาการหอบเหนื่อย โดยส่วนใหญ่จะดีขึ้น มีบางรายต้องใส่ท่อ ใช้เครื่องช่วยหายใจ
การงานของพยาบาลแต่ละชุด 14 วัน โดยไม่มีการผลัดเปลี่ยนระหว่างทาง เช้า บ่าย ดึก ต่อเนื่องกันไป 24 ชั่วโมง เว้นแต่มีเหตุจำเป็นต้องออกมาก่อนระหว่างทาง การพักนอนงีบหลับ จึงต้องผลัดกันงีบในแต่ละช่วงเวลา แม้สามารถติดตามได้ทางกล้อง แต่ก็ต้องเข้าไปตรวจด้วยตนเอง เพราะบางรายอาการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก จึงมักเห็นภาพการงีบหลับบนโต๊ะทำงาน หรือเปลี่ยนอิริยาบถ นั่งพื้นก้มหน้าฟุบหลับบนเก้าอี้ก็มี แม้จะมีฟูกให้นอน แต่ก็ไม่เคยปริปากบ่นท้อถอย ยังคงทำหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบอย่างแข็งขัน
แพทย์เวรจะคอยสั่งการรักษา ปรึกษาจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เมื่อครบ 14 วัน ผลัดชุดใหม่เข้ามาแทนรับไม้ต่อ ชุดเดิมกักตัวต่อ อีก14 วัน และตรวจหาเชื้อตามเวลาที่กำหนด เป็นอีกมุมหนึ่งของทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล ในหอผู้ป่วยโควิด
“ช่วงนี้จึงขอให้อยู่บ้าน ห่างกันไว้ จะช่วยลดความอ่อนล้าของบุคลากรทางการแพทย์ได้มาก และเอาชนะได้ในไม่ช้า”
ด้าน น.พ.จรัสพงษ์ สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช (สสจ.นครศรี) เปิดเผยถึงการกักตัวเจ้าหน้าที่ทั้งโรงพยาบาลพิปูน เกือบ 140 คน ว่า ที่ รพ.พิปูน ผู้ป่วยหญิงวัย 63 ปี มีอาการป่วยถ่ายเหลวและมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพิปูน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการสอบสวนประวัติก่อนการรักษา ผู้ป่วยรายนี้ปฎิเสธและปกปิดประวัติ
ภายหลังพบว่าผู้ป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พิปูน 2 วัน มีอาการเหนื่อย เมื่อนำไปเอกซเรย์พบปอดบวม ทาง รพ.จึงตรวจโควิดพบว่ามีการติดเชื้อโควิด เมื่อตรวจพบว่า ติดเชื้อ ผู้ป่วยก็บอกว่ามีลูกชายมเยี่ยมจาก กทม. จึงทำให้ทาง รพ. ต้องทำการกักตัวเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 138 ราย และมีเจ้าหน้าที่สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ 17 ราย ต้องถูกกักตัว รวมถึงผู้ป่วยที่นอนรักษาร่วมห้องกับผู้ติดเชื้ออีก 10 ราย ต้องทำการตรวจเชื้อโควิดทุกราย และทำการปิดโรงพยาบาลพิปูนเป็นเวลา 3-5 วัน เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อ
โดยจะมีการรับผู้ป่วยเฉพาะอุบัติเหตุและฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งกรณีนี้ทางหมอได้ถามหลายรอบ แต่จงใจปกปิดไม่บอก ขณะนี้ทาง รพ. เตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดฐานปกปิดข้อมูล ล่าสุดพบว่ามีบุคลากรทางแพทย์ติดเชื้อ 2 ราย โดยแพทย์ทั้งสองรายเป็นสามี-ภรรยา โดยติดจากพี่สาวที่มาจาก จ.สุรินทร์ ซึ่งกรณีได้ทำการเร่งทำความสะอาดและกักกันผู้อยู่ใกล้ชิดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ระลอกเมษายน) ใน จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย ติดเชื้อสะสม 257 ราย รักษาตัวในโรงพยาบาล 241 ราย รักษาหายแล้ว 16 ราย เสียชีวิต 0 ราย
สำหรับผู้ป่วยทั้ง 16 ราย ประกอบด้วย อ.ปากพนัง 3 ราย อ.พระพรหม 2 ราย อ.ทุ่งสง 11 ราย อ.ท่าศาลา 4 ราย อ.ร่อนพิบูลย์ 1 ราย และ อ.ชะอวด 1 ราย