จากกรณีศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้ฎีกา คดีจำคุก ร็อกสตาร์คนดัง “เสก โลโซ” หรือเสกสรรค์ ศุขพิมาย เป็นเวลา 2 ปี 18 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีเสพยาและต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อปี 2560 ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากฟังคำสั่งศาลแล้วทนายความของ นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกาดังกล่าว พร้อมกับยื่นหลักทรัพย์จำนวน 600,000 บาทขอปล่อยชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซไปโดยตีราคาประดัน 600,000 บาท ต่อมาเวลา 15.00 น. นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ นักร้องดัง ก็ได้รับการประกันตัวจากห้องควบคุมชั้นล่างศาลอาญามีนบุรี โดยขึ้นรถตู้สีดำ ยี่ห้อฮุนได ทะเบียน นข 999 มุกดาหาร
ส่วนบรรยากาศระหว่างได้รับการปล่อยชั่วคราว นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ ได้เดินออกมาขึ้นรถตู้มาจอดสตาร์ทเครื่องรอ ซึ่งมีนางวิภากร หรือกานต์ ภรรยา ทนายความและคนติดตามมาคอยต้อนรับ ขณะที่นายเสกสรรค์ หรือเสก โลโซ มีสีหน้ายิ้มแย้มให้สื่อมวลชนที่มารอทำข่าว พร้อมกับชูนิ้วแสดงท่าทางไอเลิฟยู
เอกสารจากศาลมีนบุรี คดีเสก โลโซ
ฐานความผิด=> ครอบครองอาวุธปืน + เสพยา + ต่อสู้ขัดขวาง จพง.
บวกโทษ => คดีทำร้ายสาวคนสนิท ที่รอลงอาญาไว้
นับโทษต่อ => คดียิงปืนขึ้นฟ้าที่นครศรีธรรมราช
ฐานความผิดและโทษ => ครอบครองอาวุธปืน (คุก 6 เดือน) + เสพยา (คุก 6 เดือน) + ต่อสู้ขัดขวาง จพง. (คุก 1 ปี 6 เดือน) => รวมคุก 1 ปี 18 เดือน
บวกโทษ => คดีทำร้ายสาวคนสนิทที่รอลงอาญาไว้ (คุก 1 ปี 3 เดือน)
นับโทษต่อ => คดียิงปืนขึ้นฟ้าที่นครศรีธรรมราช => ไม่นับโทษต่อ
ฐานความผิดและโทษ => ครอบครองอาวุธปืน (คุก 3 เดือน) + เสพยา (คุก 6 เดือน) + ต่อสู้ขัดขวาง จพง. (คุก 1 ปี 6 เดือน) => รวมคุก 1 ปี 15 เดือน
บวกโทษ => คดีทำร้ายสาวคนสนิทที่รอลงอาญาไว้ (คุก 1 ปี 3 เดือน)
นับโทษต่อ => คดียิงปืนขึ้นฟ้าที่นครศรีธรรมราช => ไม่นับโทษต่อ
เงื่อนไขของคดี => ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะ 2 ศาลลงโทษเหมือนกัน และโทษจำคุกไม่ถึง 5 ปี (ป.วิอาญา มาตรา 218)
แต่ “เสก” ขอฎีกา => ยื่นคำร้องให้ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาคดีนี้ทั้ง 2 ศาล ลงชื่ออนุญาตให้ฎีกา (ป.วิอาญา มาตรา 221)
ผลการขอฎีกา => ไม่เป็นปัญหาสำคัญที่ควรฎีกา
ผลของคดี => ศาลอาญามีนบุรีอ่านคำสั่งไม่อนุญาตให้ฎีกา ในคดีอาวุธปืนและต่อสู้ขัดขวาง จพง. คดีจึงถึงที่สุด ต้องรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
คดีเสพยา => คดีสิ้นสุดที่ศาลอุทธรณ์ แต่คู่ความยื่นคำร้องขอฎีกาได้อีกช่องทางหนึ่ง ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติดฯ
สถานะของ “เสก” => อยู่ระหว่างส่งคำร้องขอฎีกาให้ศาลฎีกา ระหว่างนี้จึงขอประกันตัว และศาลอนุญาตให้ประกันตัว