กรณีนางวรรณ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี หญิงม่าย มีนายเอก (นามสมมุติ) ผู้รับเหมาก่อสร้างวัย 65 ปี มาติดพันแล้วถูกครอบครัวนางเก๋ (นามสมมุติ) หญิงม่ายอีกคนที่คบหาอยู่กับนายเอก มารุมทำร้ายร่างกายกะโหลกร้าวร่างกายบอบช้ำ ยังไม่พอจับแก้ผ้าประจานโซเชียล พร้อมอ้างว่าฝ่ายผู้ก่อเหตุยังใช้ด้ามไม้กวาดแทงอวัยวะเพศฉีกขาดอาการสาหัส เหตุเกิดในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 3 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา รักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราช นานเกือบเดือนแต่คดีไม่คืบ ต่อมา น.ส.จอย (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ลูกสาวจึงร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว ต่อมา นางวรรณ ได้เสียชีวิตลง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหมู่ 6 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ไว้ศพนางวรรณ ทั้งนี้ 2 คืนที่ผ่านมามีเพื่อนบ้านมาร่วมสวดอภิธรรมศพและให้กำลังใจน.ส.จอย เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแม่ โดยเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ อินทร์ยิ้ม ผกก.สภ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางมายังงานศพของนางวรรณ พร้อมเจ้าหน้าที่ เพื่อขอนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่ รพ.มอ.สงขลา ตามที่ น.ส.จอย และญาติๆร้องขอ
ผกก.สภ.พระพรหม กล่าวว่า การสอบสวนสืบสวนดำเนินคดีนี้ทำในรูปแบบ ของคณะกรรมการที่ทาง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช แต่งตั้ง ซึ่งในประเด็นที่ น.ส.จอย และญาติ ๆ ยังคาใจสงสัย ในวันนี้ตำรวจก็จะนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยต้องรอความเห็นจากแพทย์ แต่ในทางสอบสวนจะทำการสอบสวนทุกประเด็นข้อสงสัยให้กระจ่าง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานหากเขาข่ายกระทำความผิด ข้อหาใดก็จะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน
ด้านน.ส.จอย กล่าวว่า แม้ตนไม่พร้อมเรื่องการเงินในการบำเพ็ญกุศลศพแม่ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แต่ตอนนี้มีผู้ใจบุญทั่วประเทศโอนเงินบริจาคช่วยเหลือตนมาบ้างแล้ว หนูคิดว่าจะเอาชีวิตเป็นเดิมพันในต่อสู้ขอความเป็นธรรมให้แม่จนถึงที่สุด ชีวิตหนูและแม่รวมทั้งน้อง ๆ ต่อสู้ยากลำบากมาตั้งแต่หนู 5 ขวบต้องขายพวงมาลัยหาเงินเลี้ยงครอบครัว และส่งเสียตัวเองเรียนจนจบ ม.3 วันนี้ตนก็ยังประกอบอาชีพขายพวงมาลัยเหมือนเดิม ขอให้ประชาชนช่วยเป็นกำลังใจ ให้ตนในการต่อสู้เพื่อวิญญาณของแม่ในครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อนำศพแม่กลับจากผ่าพิสูจน์รอบสองที่ รพ.มอ. ก็จะไม่ยอมเผาศพจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และเกิดความเป็นธรรมกับแม่ของตน โดยจะเดินทางไปร้องเรียนกองปราบปรามให้รับคดีแม่ของตนไปดำเนินการแทนตำรวจในพื้นที่
“เรื่องทั้งหมดผ่านมาเกือบ 1 เดือน ถ้าหนูไม่ร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน เรื่องมันจะได้รับความสนใจจากตำรวจบ้างหรือไม่ หลังเกิดเหตุทำไมตำรวจจึงไม่มาตรวจสอบ เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ปล่อยให้พยานหลักฐานถูกทำลายไปหมด แม้แต่เสื้อชั้นในแม่ เจ้าของบังกะโลก็ยอมรับว่า พบว่าฉีกขาดและเขาเก็บทิ้งถังขยะ และรถเก็บขยะเอาไปทิ้งแล้ว ผ้าเช็ดตัวที่มีรอยเปื้อนเลือดอยู่ไหน เสื้อผ้าของแม่ที่สวมใส่ถูกถอดจนเปลือยกาย ตำรวจก็ไม่ได้สอบสวนหรือตามหาทั้งๆ ที่เป็นวัตถุพยานสำคัญ ล่าสุดฝ่ายผู้ต้องหาไปออกรายการโหนกระแส เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาและยอมรับกลางรายการว่า นำเสื้อผ้าของแม่ไปทิ้งบ่อพักท่อระบายน้ำของบังกะโล จึงไปเก็บรวบรวมมาได้” น.ส.จอย กล่าว
น.ส.จอย กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า มันเป็นไปได้อย่างไรที่จู่ ๆ แม่ของตนจะเส้นเลือดสมองแตกตายเอง โดยที่กลุ่มนางเก๋และลูกๆ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในคลิปก็ปรากฏภาพชัดเจนว่า ขนาดแม่ตนนอนเปลือยกายแน่นิ่งบนพื้นห้อง ไม่มีทางสู้รบตบมืออะไร นางเก๋ก็ยังกระทืบซ้ำหลายครั้ง พร้อมดุด่าประณามอย่างหยาบคายรุนแรง พยานวัตถุที่นางเก๋และลูกๆ ส่งภาพ/คลิป และบอกเล่ากับชาวบ้านซึ่งพยานบุคคลจำนวนมาก ในทุกประเด็นมันชัดเจนมาก แต่ผลการชันสูตรกลับระบุว่า แม่ของตนเสียชีวิตด้วยตนเอง เพราะเส้นเลือดในสมองแตก หากเป็นเช่นนั้นจริงจะต้องอธิบายสาเหตุ ที่ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกด้วย” น.ส.จอย กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ญาติ2ฝ่ายรุมแย่งศพม่ายสาว เหยื่อไม้กวาดทิ่มอวัยวะเพศ…