ภูมิภาค
“คุณหญิงสุดารัตน์” ล่องใต้ไหว้พระธาตุเมืองคอน ประกาศส่งสส.ครบทุกเขตภาคใต้
วันจันทร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 20.37 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้เดินทางมาที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยมีกลุ่มพลังมวลชน อสม.และอดีตผู้สมัคร สส.พรรคไทยรักไทยหลายคนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชและภาคใต้หลายคนมารอให้การต้อนรับ ก่อนที่คุณหญิงสุดารัตน์จะเดินเข้าไปกราบไว้พระบรมธาตุเจดีย์ โดยขณะเดินเข้าไปกราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ คุณหญิงสุดารัตน์ได้มีการไลฟ์สดการเดินทางมากราบไหว้วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารตลอดเวลาด้วย
ซึ่งหลังจากกราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชเสร็จแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าวันนี้ตนเดินทางมากราบไหว้พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารซึ่งจะมากราบไหว้ทุกปีมีปีที่แล้วไม่ได้มาเนื่องจากโควิดจึงเดินทางมาในวันนี้ และมีการประชุมทีมพรรคไทยสร้างไทยที่ จ.นครศรีธรรมราชอีกด้วยก็เลยได้มากราบสักการะในวันนี้ ก็เป็นสิริมงคลและตั้งใจที่จะได้มากราบทุกปีอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเดินทางมาในวันนี้มีนัยยะทางการเมืองว่าจะมีการยุบสภาหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า อ่อไม่มียุบหรอกค่ะ ลุงคงอยู่อีกนานและคงอยู่ไปจนหมดสมัย แต่ว่าเราก็มาทำงาน วันนี้ก็มาทำเรื่องพืชกระท่อมในจ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากตนเพิ่งกลับจากอเมริกาได้เห็นโอกาสของพืชเศรษฐกิจใหม่ของภาคใต้ก็คือพืชกระท่อม เราไปเห็นในอเมริกาขายกระท่อมกัน ในบางรัฐอาจะยังไม่ถูกกฎหมาย แต่หลายรัฐก็ถูกกฎหมายแล้วก็มีการขายเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีราคาสูงมาก เราก็เลยได้มีการประสานกับเกษตรกรที่นี้ในการที่จะสนับสนุนให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ก็คือกระท่อม แต่เราก็ให้อยากส่งเป็นวัตถุดิบไปซึ่งจะได้ราคาไม่ดี อย่างน้ำกระท่อมเขาขายขวดหนึ่ง12เหรียญหรือ400บาท ซึ่งน้ำเท่ากับน้ำชาเขียว ช็อคโกเล็ตที่ทำมาจากกระท่อมแท่งหนึ่งเกือบ900บาท และก็เป็นสินค้าที่ฮิตขายดี ก็เลยมาคุยกับเกษตรกรที่นี้ นอกจากจะสนับสนุนการปลูกแล้ว เราควรจะสนับสนุนให้มีการแปรรูป และเชื่อว่าทาง อย.ก็คงจะอนุมัติให้มีการแปรรูปและส่งออกเร็วๆนี้ ก็ต้องขอบคุณรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมที่ได้ปลดล็อคพืชกระท่อมออกจากยาเสพติดและขอให้รัฐบาลทำให้สุดคือไม่ใช่ปลดล็อคอย่างเดียว ต้องวส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจที่ประชาชนได้มีการแปรรูปทำมาหากินและหารายได้เข้าประเทศ ซึ่งสหรัฐประเทศเดียวมีมูลค่าถึง3หมื่นล้าน ซึ่งจะต้องห้การสนับสนุนเป็นพืชสมุนไพรที่สำคัญของประเทศต่อไป วันนี้กระท่อมก็ถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีผลนอกจากช่วยปวดเมื่อยแล้วยังช่วยลดเบาหวานเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของเราอยากให้มีการศึกษาวิจัยแปรรูป และสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรในภาคใต้
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งสส.สมัยหน้าพรรคไทยสร้างไทยจะมีการส่งผู้สมัคร สส.ครบทุกเขตในภาคใต้ก็หวังว่าพี่น้องชาวนครศรีธรรมราชและพี่น้องชาวภาคใต้จะได้ให้พรรคไทยสร้างได้มีโอกาสได้รับใช้เพราะว่าเรามีนโยบายสำคัญที่จะสู้เพื่อคนตัวเล็ก คนตัวเล็กในที่นี่ก็หมายถึงเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายเล็กรายย่อยจนถึงเกษตรกร ซึ่งเป็นคนฐานใหญ่ของประเทศ แต่ว่ารายได้กลับหดหายแล้วก็เสียงไม่ดัง ไม่ได้ยินถึงรัฐบาล ดังนั้นเราก็จะเพิ่มพลังให้กับคนตัวเล็ก การเพิ่มพลังก็มีการเพิ่มโอก่าสด้านเงินทุน ด้านความรู้ด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงเรื่องการตลาดที่วันนี้เรามาทำกระท่อมเป็นต้น และเราก็จะขจัดปัญหาอุปสรรคที่มันเป็นอุปสรรคทำมาหากินของคน
สำหรับไทยสร้างไทยเราคิดว่าในยุคโควิดและหลังโควิดเราต้องส่งเสริมให้คนไทยลุกขึ้นมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดและแข็งแรงที่สุดและขจัดทุกอุปสรรคที่เป็นปัญหาต่อการทำมาหากินเช่นกฎหมาย เราก็มีนโยบายออก พ.ร.ก.ฉบับหนึ่งที่จะยกเว้นการใช้กฎหมายและใบอนุญาตต่างประมาณ1500ฉบับ ที่มันไม่มีความจำเป็นแล้วก็เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของคนตัวเล็กตัวน้อย ออก พ.ร.ก.เราใช้เวลาแค่3อาทิตย์ เราจะยกเว้นชั่วคราวประมาณ3-4ปีเพื่อให้คนได้ลุกขึ้นมาหากินได้เร็วที่สุด ไม่ใช่ให้เอากฎหมายมาเป็นข้อจำกัดแล้วก็หากินกันไม่ได้ และเป็นช่องทางแห่งการไถ่เงิน อันนี้เป็นนโยบายและทางใต้นั้นก็มีทั้งเรื่อง1.การท่องเที่ยว 2.เรื่องการแปรรูป เป็นศูนย์กลางการรูปสินค้าเกษตรไม่ว่าจะเป็นเรื่องยางพารา หรือสินค้าตัวใหม่อย่างพืชกระท่อม เป็นต้น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่