เมื่อวันที่ 24 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณี การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ โดยระบุว่า จากที่มีข่าวลือเรื่องสลับกระทรวง
จากกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี สลับกระทรวงกัน ก็เป็นจริงขึ้นมา หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรี และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นการสลับตำแหน่งระหว่าง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งทั้งหมดเป็นความสมัครใจและเห็นพ้องของแกนนำทั้ง2พรรค และเป็นความเห็นชอบของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับสนองพระบรมราชโองการด้วย
แต่คำถามมีอยู่ว่า ประชาชนประเทศชาติได้อะไร กับการสลับกระทรวงหรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า มีทั้งผลดีและผลเสีย แล้วแต่ใครจะมองในแง่มุมใด ผลดีก็คือ การมีรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองเดียวกัน ทำงานอยู่ในกระทรวงเดียวกัน ทำให้การทำงานเข้าขากัน ไม่ขัดแย้ง ทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น ผลงานที่เกิดขึ้นของกระทรวง พรรคการเมืองนั้นก็รับผลงานเต็มๆไปทั้งพรรค ไม่ต้องแย่งผลงานกัน ส่วนผลเสียก็คือ การมีรัฐมนตรีจากพรรคเดียวกันมาเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงเดียวกัน อาจจะไม่มีการถ่วงดุล ตรวจสอบการทำงานกันภายในกระทรวง อาจจะเกิดกระแสกินรวบ การทำงานแบบเหมารวมยกกระทรวงเกิดขึ้นได้
ถ้าหากพิจารณาถึงคุณสมบัติตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ คือคุณสินิตย์ เลิศไกร ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะสลับตำแหน่ง ระหว่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับรัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม มากกว่า จะมีความเหมาะสมและถูกฝาถูกฝั่งกับคุณสินิตย์ เลิศไกร มากที่สุด เพราะคุณสินิตย์ มีความถนัดงานทางด้านการเกษตรเป็นสำคัญ จบการศึกษาจากวิทยาลัยเกษตร และพื้นฐานของครอบครัว ก็เป็นเกษตรกรมาตลอดชีวิต น่าจะเป็นการใช้คนที่ถูกกับงาน หรือที่ฝรั่งเขาเรียกว่า “Put the right man on the right job”
แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว ก็คงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพียงแต่ขอแสดงความคิดเห็น และความรู้สึกในฐานะนักการเมืองคนหนึ่งเท่านั้น
ขอแสดงความยินดีกับคุณสินิตย์ เลิศไกร เพื่อนรักของผม ในโอกาสได้รับการโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นเกียรติประวัติแก่ตัวเอง และวงศ์ตระกูลอย่างหาที่สุดมิได้