นครศรีธรรมราช – ก้อนน้ำมันลึกลับยังทะลักเกยหาดหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ล่าสุด วันนี้พบซาก “เต่าตนุ” สัตว์ทะเลลอยตาย ชาวบ้านสุดเอือมเป็นปัญหาซ้ำซากทุกปี แต่ยังไร้คำตอบของต้นตอที่มา
วันนี้ (10 มี.ค.) สภาพพื้นที่ชายหาดทรายในท้องที่หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เต็มไปด้วยก้อนน้ำมันจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดทราย หลังจากที่เริ่มถูกความร้อนจากแสงแดด ก้อนน้ำมันเหล่านี้จะเริ่มละลายกลายเป็นของเหลวข้นเหนียวสีดำสนิท จากนั้นจะค่อยๆ ซึมจมลงไปในทรายจนกลายเป็นสีดำ โดยลักษณะของก้อนน้ำมันยังคงถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านแจ้งว่า ก้อนน้ำมันเริ่มถูกซัดเข้าหาฝั่งเมื่อ 3 วันก่อน และเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงวันนี้ โดยคาดว่าจะมีต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์
ชาวประมงพื้นบ้านในย่านนี้รายหนึ่งบอกว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมหาดบริเวณ ต.หน้าสตน เหมือนกับถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแล ปัญหาก้อนน้ำมันเช่นนี้มีเป็นประจำทุกปี เมื่อเป็นข่าวถูกเผยแพร่ขึ้นมาเจ้าหน้าที่จะเข้าเก็บตัวอย่าง อ้างว่านำไปตรวจสอบที่มาของก้อนน้ำมัน หลังจากเรื่องเงียบก็จะหายไปเหมือนเดิม ชาวบ้านต้องเผชิญกับก้อนน้ำมันเช่นนี้มาอย่างน้อย 10 ปี ไม่เคยได้รับคำตอบว่าก้อนน้ำมันมาจากที่ไหน แม้จะเก็บตัวอย่างไปทุกปีแล้วก็ตาม แต่หากพิจารณาโดยหลักแล้ว น้ำมันจำนวนมหาศาลเช่นนี้มาได้เพียง 2 ทาง คือจากแท่นขุดเจาะ และเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นการกระทำโดยมนุษย์แน่นอน ไม่มีทางที่ผู้เกี่ยวข้องจะหาต้นตอไม่เจอ เพียงแต่ไม่ดำเนินการ หรือรู้ว่ามาจากที่ใด แต่ไม่เปิดเผยเท่านั้นเอง
นอกจากนั้น ชาวประมงรายนี้ยังระบุด้วยว่า สิ่งที่ตามมากับก้อนน้ำมันที่เข้าเกยหาด จะมีสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น หมึก ปลา จะถูกคลื่นซัดมาตายเป็นระยะทางตลอดแนวชายหาด และวันนี้ยังพบซาก “เต่าตนุ” ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด อาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ได้เก็บซากไว้เพื่อส่งมอบให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) มารับไปเพื่อทำการวิจัย และชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไปแล้ว