- Line
นครศรีธรรมราช : กำนันคนดังหัวไทร ร้องสื่อ ทม.ปากพนังต้มหลอกเงินกว่าครึ่งล้านบาท หลังเปิดประมูลขายทรัพย์สินชำรุดภายในสำนักงานทั้งหมด 679 รายการ แต่กลับได้ของไปจริงเพียง 86 รายการ วิ่งโร่แจ้งความขอทวงเงินคืนพร้อมค่าเสียหาย
ที่สำนักงานเทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช นายสมชาย เสนขวัญแก้ว กำนัน ต.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ประกอบการ บริษัท ส.ทรัพย์เจริญ ก่อสร้าง จำกัด ได้นำเอกสารหลักฐาน เป็นใบเสร็จเบ็ดเสร็จ 802-1-01331-1 เล่มที่ 3 เลขที่ 039 ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ออกโดยเทศบาลเมืองปากพนัง จำนวนเงิน 531,000 บาท เป็นค่าขายทอดตลาดพัสดุชำรุด ตามเอกสารที่แนบท้าย เป็นรายชื่อพัสดุที่จำหน่ายประจำปี 2564 จำนวน 679 รายการ มอบให้กับสื่อมวลชน
นายสมชายกล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองปากพนัง ได้เปิดประมูลพัสดุชำรุดขายทอดตลาดจำนวน 679 รายการ ซึ่งบริษัทของตนเองได้ชนะการประมูลมาในราคา 531,000 บาท จากผู้เข้าประมูลทั้งหมดกว่า 70 ราย เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทได้ว่าจ้างรถบรรทุกเพื่อเข้าไปดำเนินการขนของตามรายการ แต่กลับพบว่ารายการของพัสดุทั้งหมดมีเพียง 86 รายการ จากทั้งสิ้น 679 รายการ ตนเองและทีมงานจึงเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะเป็นกองพัสดุ กองคลัง หรือแม้แต่สำนักปลัดฯ แต่กลับได้รับคำตอบเพียงว่าไม่มีของตามรายการดังกล่าว
“จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ปากพนัง ก่อนเดินทางมาสอบถามเพื่อขอคำตอบที่ชัดเจนอีกครั้ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่มีคำตอบใด ๆ ซึ่ง จนท.แต่ละฝ่าย แม้แต่ผู้บริหารก็บ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น อ้างไม่ใช่หน้าที่ โยนความรับผิดชอบกันไปมา จนเวลาล่วงเลยมาเกือบเดือนก็ยังไม่มีคำตอบ ตนเองจึงเดินทางมาร้องสื่อมวลชนให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าคืออะไรกันแน่ ตนเองเป็นเพียงผู้ประกอบการไม่มีนอกในกับใคร อยากให้ผู้บริหารทางเทศบาลออกมาชี้แจงในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ประมูลของมาตนก็ต้องเร่งนำมาตรวจสอบและจำหน่ายต่อ เงินที่นำมาประมูลก็ต้องกู้ยืมมา มีดอกเบี้ยทั้งนั้น ค่าดำเนินการ ค่าจ้างจิปาถะล้วนเป็นค่าใช้จ่ายแทบทั้งสิ้น จะอ้างว่ากำลังมีการเลือกตั้ง นายก ทม.ปากพนัง แล้วงานอื่น งานตรวจสอบจะต้องชะงักด้วยใช่หรือไม่”
นายสมชาย กล่าวต่อว่า ตามปกติการประมูลพัสดุชำรุดขายทอดตลาดของหน่วยงานราชการนั้น สินค้าที่ใช้ได้จะมีเพียง 70-80% แต่การประมูลในครั้งนี้เหมือนช่วยกันหลอกลวง ได้สินค้ายังไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำไป หลังจากที่ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางเทศบาลแล้ว ก็จะเดินทางไปร้อง ปปช. และ สตง.ให้ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ยังได้คำตอบจากทาง จนท.ตร.ที่รับเรื่องอีกว่า ก่อนหน้านี้มีผู้รับเหมาเข้ามาแจ้งความลงบันทึกไว้ในกรณีเดียวกันหลายราย ซึ่งเชื่อว่าตนเองก็เป็นรายล่าสุดที่ถูก ทม.ต้มหลอกเงินด้วยการเปิดประมูลทรัพย์สินชำรุดภายในแต่กลับไม่มีของดังกล่าวตามรายการจริงให้ผู้ประมูล ซึ่งเท่ากับเข้าข่ายหลอกลวง โดยจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
จากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด พบว่าทางเทศบาลเมืองปากพนังได้ประกาศเปิดประมูลขายทอดตลาดพัสดุชำรุดเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2564 และ มีผู้เข้าประมูลหลายราย ปรากฏว่า บริษัท ส.ทรัพย์เจริญ ก่อสร้าง ยื่นซองประมูลได้ในราคา 531,000 บาท และเป็นผู้ชนะการประมูล จึงมีสิทธิ์เป็นเจ้าของพัสดุชำรุด 679 รายการ แต่ทางบริษัทได้ทำหลักฐานการขนพัสดุดังกล่าวได้เพียง 86 รายการ เท่านั้น
ต่อมา นายสมพจน์ สุรกุล รองปลัดเทศบาลเมืองปากพนัง ได้เชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าพูดคุยโดยขอเวลาในการตรวจสอบ 15 วัน เนื่องจากตนเองไม่ได้เป็นเจ้าเรื่อง และทางปลัดเทศบาลซึ่งรักษาราชการแทนนายกฯ ได้ติดประชุมจังหวัด ตนเองจึงมารับเรื่องแทน ซึ่งเจ้าของเรื่องจริง ๆ คือกองคลัง และไม่มีใครอยู่ ติดภารกิจเรื่องการเลือกตั้งจึงวุ่นวายไปหมด รับปากว่าจะตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วจะแจ้งให้ทาง นายสมชายรับทราบภายในระยะเวลาที่ขอไว้ แล้วค่อยนัดมาคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
“ก่อนนี้ตนก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมมีรายการพัสดุชำรุดมาก และ ประมูลราคาค่อนข้างสูง ทั้ง ๆ ที่เบื้องต้นตั้งราคาเอาไว้ที่ แปดหมื่นกว่าบาทเท่านั้น ขอเวลาตรวจสอบก่อนแล้วจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป”