ประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน แห่ลงทะเบียน “เราชนะ” เพื่อรับเงินเยียวยา 7,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ คนพิการ บางคนรอคิวแต่เช้ามืด ขณะที่บางจุดแถวยาวเป็นกิโล
เกี่ยวกับโครงการ “เราชนะ” เพื่อช่วยเหลือบรรเทาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินจำนวน 3,500 บาท ต่อคนต่อเดือน จำนวน 2 เดือน เพื่อใช้จ่ายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ถึง 31 พฤษภาคม 2564 ให้กับ 1.กลุ่มถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2.กลุ่มมีแอปฯ เป๋าตัง (เฉพาะผู้ใช้สิทธิ์โครงการ) และ 3.กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล ซึ่งกลุ่มนี้ได้เปิดลงทะเบียนไปเมื่อวันที่ 12 ก.พ.64 ที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งเปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15-25 ก.พ.64 ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาและหน่วยบริการเคลื่อนที่ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด เพื่อยืนยันตัวตน และกำหนดรหัส 6 หลักของตัวเอง
เมื่อได้รับสิทธิ์เราชนะแล้ว สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการ ผ่านเครื่องรูดบัตร หรือสแกนผ่านแอปฯ ถุงเงิน ลักษณะเดียวกับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังจะโอนวงเงินงวดแรก จำนวน 4,000 บาท ในวันที่ 8 มี.ค.64 และทยอยโอนจนครบ
สำหรับบรรยากาศโดยทั่วไป วันนี้พบว่า ตั้งแต่เช้า ที่ทำการธนาคารกรุงไทยทุกสาขา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอเข้าคิวตั้งแต่ก่อนเวลา 08.30 น. เพื่อนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวยา โดยที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางปลาสร้อย ริมถนนสุขุมวิท เขตเทศบาลเมืองชลบุรี จ.ชลบุรี มีความชุลมุนเล็กน้อย เพราะด้านหน้าธนาคารนั้นมีเก้าอี้ให้นั่งไม่เพียงพอ บางคนสูงอายุและพิการ แต่ต้องยืนรอ โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่มาคอยรับเรื่องให้บริการเพียง 2 คนเท่านั้น
ที่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอเมืองอุทัยธานี บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลเมืองอุทัยธานี ตั้งแต่ช่วงเช้าพบว่า มีประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุมายืนรอลงทะเบียน “เราชนะ” ประมาณ 400 คน โดยหลังจากที่ธนาคารเปิดทำการ พนักงานได้ออกมาทำความเข้าใจว่า สามารถรับลงทะเบียนได้เพียงวันละ 160 คนเท่านั้น สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่มารอกันตั้งแต่เช้า
โดยบริเวณด้านหน้าของธนาคารพบว่ามีประชาชนต่อคิวจนล้นฟุตปาทลงมาบนถนน ทำให้ตำรวจจราจรต้องมาคอยดูแลให้อยู่บริเวณเส้นที่กำหนดไว้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ส่งผลให้ช่วงเช้าที่ผ่านมาการจราจรค่อนข้างติดขัดเล็กน้อย
ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาชัยนาท อ.เมืองชัยนาท พบว่า ตั้งแต่ก่อนเวลา 08.30 น. มีประชาชนกว่า 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ เดินทางต่อเข้าแถวเพื่อที่จะลงทะเบียน “เราชนะ” โดยบางคนมารอตั้งแต่เช้ามืด ส่งผลให้แถวยาวเหยียด บางคนถึงขั้นยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ได้รับการเยียวยาเหมือนคนอื่นๆ
ส่วนที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่หอประชุมเมืองนครศรีธรรมราช ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 (ทุ่งท่าลาด) ซึ่งเป็นจุดที่ได้เปิดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะสำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.พระพรหม ปรากฏว่าตั้งแต่เช้ามีประชาชนเกือบ 4,000 คนจากทั้งสองอำเภอมาเข้าแถวเพื่อผ่านจุดตรวจคัดกรองโควิดด้านหน้าหอประชุมก่อนเข้าไปลงทะเบียนด้านในหอประชุม โดยต่อคิวยาวเหยียดกว่า 1 กม. ท่ามกลางแดดที่เริ่มร้อน โดยประชาชนที่มาลงทะเบียนส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและคนพิการ ทำให้ต้องมีการเตรียมรถพยาบาลไว้คอยช่วยเหลือ
นายวิทยา เขียนรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เผยว่า ประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ซึ่งทางคลังจังหวัดและธนาคารกรุงไทยได้มาอำนวยความสะดวกในวันนี้ ในส่วนของอำเภอเมือง และ อ.พระพรหม จะเปิดรับลงทะเบียนจำนวน 2 วัน คือ 15-16 ก.พ. จนครบทุกคน
ด้านนายพัฒนา พฤกษมาศ ผจก.ธนาคารกรุงไทย เขต 1 นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ทางธนาคารกรุงไทยจะทยอยรับลงทะเบียนสำหรับผู้ที่ไม่มีมาร์ทโฟนไปตามอำเภอต่างๆของ จ.นครศรีธรรมราช จนถึงวันที่ 25 ก.พ.2564 คาดว่าจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่ตกหล่นต่อไป
ขณะที่ นายวันชัย มัณฑนะศิริ อายุ 81 ปี ชาวบ้านที่มาเข้าคิวรอลงทะเบียน เผยว่า ตนนำบัตรประชาชนของตนและของภรรยามามาลงทะเบียน แต่ไม่รู้ว่าจะลงทะเบียนแทนภรรยาได้หรือไม่ เนื่องจากภรรยานอนป่วยอยู่ที่บ้าน.