“เลขาฯ กกต.” ย้ำกรอบปฏิทินเลือกตั้งพร้อม บอกพรรคการเมืองอย่าพะวงหาเสียง ขอยึดกฎ 180 วัน “บิ๊กป้อม” งดจ้อสื่อวันที่สาม เซ็นตั้ง “ไพบูลย์” ปธ.คณะทำงานธุรการฯเตรียมเลือกตั้ง “พปชร.” จัดประชุมใหญ่ 14 ม.ค. “วิรัช” แย้มเปลี่ยน กก.บห.ใหม่ “ประวิตร” หัวหน้าเหมือนเดิม โละ ส.ส.เขตออก เล็งระดมทุน 25 ม.ค. วางตัวผู้สมัครคืบ 80% โอ่เช็กแล้วเลือดไหลไม่เยอะ ยัน “มิ่งขวัญ” ยังอยู่ “รทสช.” เปิดช่อง “บิ๊กเนม” คัดผู้สมัคร ส.ส. “ศรีสุวรรณ” ร้องเอาผิดปฏิทิน “สายัณห์”
ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ วันที่ 22 ธ.ค.นายแสวง บุญมี เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสั่งการให้ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดจัดทำไทม์ไลน์การเลือกตั้งว่า เราย้ำเสมอ กกต.มีความพร้อมในการบริหารและทางธุรการ แต่สิ่งที่เรารอคือร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับจะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ ซึ่งกิจกรรมในการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ว่าจะเลือกตั้งครั้งไหน หรือกฎหมายฉบับไหน ก็จะมีกิจกรรมเหมือนกัน คือถ้านับจากอายุสภาสิ้นสุดลงจนถึงวันเลือกตั้งและวันประกาศผลการเลือกตั้ง ก็เหมือนกันทุกครั้ง แต่สิ่งที่ต่างกันคือระยะเวลา ถ้าครบวาระสภาให้นับ 45 วัน แต่ยุบสภานับไม่น้อยกว่า 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน เพียงแต่ถ้ายุบสภาจะมีเวลาในกิจกรรมมากขึ้น เช่นเวลาในการหาเสียงของพรรคการเมือง ส่วนบางกิจกรรมที่กำหนดเวลาไว้อยู่ก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่เราอาจจะขยายเวลาในการหาเสียงให้ถ้ากรณียุบสภา อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอายุสภาจะสิ้นสุดลงอย่างไร เรามีกิจกรรมที่สามารถเอาไปทาบวันพ้นได้ เรียกว่าเป็นปฏิทินการทำงาน
นายแสวงกล่าวว่า การทำกิจกรรมของพรรคการเมืองในตอนนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องเอาใจช่วยพรรคการเมือง เพราะพรรคเมืองนอกจากจะไปพะวงเรื่องการออกไปหาเสียงแล้ว ก็ต้องมาพะวงกับเงื่อนไขในการที่จะทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งที่จะทำให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัครได้คือ เขตเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้ยังไม่มี กกต.เองก็ต้องรอกฎหมายลูก ซึ่งเขตเลือกตั้งเองตอนนี้รออยู่ 2 อย่าง คือต้องรอกฎหมายมีผลใช้บังคับ และรอจำนวนประชากรที่กระทรวงมหาดไทยจะต้องประกาศ ณ วันที่ 31 มี.ค.2565 แต่เข้าใจว่าทางกระทรวงคงจะใช้เวลาระยะหนึ่งในการออกประกาศเชื่อว่าไม่ช้าแน่
ถามว่า ผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมืองแล้วไปลงพื้นที่ต่างจังหวัดเราจะดูแลอย่างไร เลขาฯ กกต.กล่าวว่า กฎหมายมีความชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนมากพรรคการเมืองเข้าใจ ใครไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ ส.ส.ลงพื้นที่เท่ากัน ตนมองว่าคนมีตำแหน่งต่างหากที่ต้องระวังกว่า แต่ตั้งแต่มีกฎหมาย 180 วันมานั้นไม่ได้ยินว่ามีใครจะมาร้องว่าใครใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปทำเกินเลยกฎหมาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้สื่อข่าวได้ถามพล.อ.ประวิตรกรณีอดีต ส.ส.พปชร.ทยอยลาออกไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นๆ ได้มาแจ้งสาเหตุการลาออกหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามใดๆ พร้อมส่งยิ้มหวานให้สื่อมวลชน จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ถือเป็นวันที่ 3 แล้วที่ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นการเมืองที่เกิดขึ้นในรอบสัปดาห์กับสื่อแต่อย่างใด
มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ลงนามคำสั่งพรรค พปชร.ที่ 149/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานธุรการเพื่อการเลือกตั้งทั่วไป โดยมอบหมายให้นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานคณะทำงาน, พล.อ.จิรศักดิ์ บุตรเนียร คณะทำงาน, นายวีระวัฒน์ ภู่พงษ์ คณะทำงาน, นายกันติพจน์ สิริภักดิสกุล คณะทำงาน และนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร คณะทำงาน มีอำนาจหน้าที่ จัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรับสมัครและการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกขั้นตอน
พปชร.เลือดไหลไม่เยอะ
ที่พรรค พปชร. มีการจัดกิจกรรมอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค พปชร. รุ่นที่ 2 โดยนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค, นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นวิทยากร
นายวิรัชกล่าวว่า พรรคจะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 14 ม.ค.66 โดยจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ แต่หัวหน้าพรรคยังเป็นพล.อ.ประวิตรเช่นเดิม จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะ กก.บห.เท่านั้น ซึ่งจะให้ผู้ที่เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตพ้นจาก กก.บห. เนื่องจากมีภารกิจมาก และมีข้อจำกัดและกฎระเบียบในการลงพื้นที่เยอะ นอกจากนี้ พรรคจะมีการจัดงานระดมทุน เบื้องต้นจะมีขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.66 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“การวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมีความคืบหน้าประมาณ 80% ส่วนในพื้นที่ กทม.กำลังดูรายละเอียด แต่มีผู้ใหญ่ที่เป็นมืออาชีพมาช่วยดูกันเยอะ เบื้องต้น พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ดูแลใน กทม.เอง และมีผู้ช่วยมาช่วยดู ส่วนการจัดแม่ทัพรับผิดชอบในแต่ละภาคนั้น ตอนนี้มีผู้รับผิดชอบชัดเจนแล้ว แต่ถ้าผู้สมัครคนใดที่อยากจะขึ้นกับส่วนกลางหรือขึ้นตรงกับหัวหน้าพรรคถือเป็นอีกกรณีหนึ่ง ขอให้เป็นบางกรณีไป ส่วนจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขตเมื่อไหร่นั้น คิดว่าก่อนวันระดมทุนพรรคน่าจะชัดเจนหมดแล้ว” นายวิรัชกล่าว
ถามถึงข่าวจะมีเลือดไหลออกอีกหรือไม่ รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า เช็กดูแล้วไม่เยอะหรอก เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง และจะมีเลือดใหม่ไหลเข้ามา บางคนไม่คิดว่าจะมาแต่มา เช่น นายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส.ปัตตานี ส่วนที่มีข่าวว่านางนาถยา เบ็ญจศิริวรรณ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ จะย้ายตามนายอันวาร์มาอยู่กับ พปชร.นั้น เป็นในส่วนของ กทม. คาดว่าคงจะมีการนัดในส่วนของ กทม.มาเปิดตัวกันอีกที
ซักถึงนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ยังอยู่กับพรรคหรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า ยังอยู่ ยังโทรศัพท์คุยกันอยู่เลย ไม่ต้องห่วง
ถามว่า นายมิ่งขวัญรู้สึกแย่หรือไม่ ที่สมาชิกพรรคสนับสนุนหัวหน้าพรรคให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียว นายวิรัชกล่าวว่า ไม่มีหรอก อะไรบางครั้งนิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่มีอะไร ตอนนี้นายมิ่งขวัญคงกำลังทำการบ้านในเรื่องเศรษฐกิจที่รับจากหัวหน้าพรรคไปอยู่ พอถามว่านายมิ่งขวัญน่าจะเข้าใจเรื่องของแคนดิเดตนายกฯ แล้วใช่หรือไม่ นายวิรัชกล่าวว่า อันนี้ตนไม่ตอบหรอก จะไปตอบแทนได้อย่างไร
ส่วนนายนิพิฏฐ์ กล่าวถึงการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ของพรรค พปชร.ว่า กำลังดูตัวว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ที่ยังไม่ลงตัว และบางแห่งทับซ้อนกันอยู่ ขณะที่บางจังหวัดยังไม่เคาะตัวผู้สมัคร โดยพวกตนจะปรึกษาหารือกันก่อนที่จะวางตัวผู้สมัคร เมื่อได้ข้อสรุปตัวว่าที่ผู้สมัครของพื้นที่ไหนแล้ว จะทยอยเปิดตัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการวางตัวว่าที่ผู้สมัครในภาคใต้ ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่ เนื่องจากมีผู้รับผิดชอบหลายคน โดยสัปดาห์หน้าคาดว่าจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ได้ข้อสรุปลงตัวแล้ว อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี และจังหวัดอื่นต่อไป
ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีรายงานว่า ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พรรค ภท.ได้คัดเลือกผู้สมัครทั้ง 9 เขตลงตัวแล้ว ประกอบด้วย เขต 1 นายจรัล ขุนอินทร์ นายกสมาคมศิษย์เบญจมฯ, เขต 2 นางสาววาริน ชินวงศ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช, เขต 3 นายมานะ ยวงทอง นักธุรกิจผลิตกระดาษลูกฟูก, เขต 4 นายณัฐกิติ์ หนูรอด อดีต ปลัด อบจ.พัทลุง, เขต 5 นายสมศักดิ์ แสงอารยะกุล อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช, เขต 6 นายษฐา ขาวขำ อดีต นอภ.ถ้ำพรรณรา, เขต 7 นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล อดีต ส.อบจ.นครศรีธรรมราช, เขต 8 นางสาวนันทวรรณ วิเชียร อดีต ขรก.สาธารณสุข และเขต 9 พ.ต.ประเสริฐ สายทองแท้ อดีต ผบ.กองร้อยค่ายรบพิเศษ สิชล โดยมีนายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นแม่ทัพใหญ่ดูแลการเลือกตั้งทั้ง 9 เขตของจังหวัดนครศรีธรรมราช
“ในการประชุมทีมยุทธศาสตร์จังหวัดพื้นที่นครศรีธรรมราช ตั้งเป้าหมายอย่างน้อย 3 เขต ได้แก่ เขต 1, 4, 8 อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตามองอีก 2 เขต ทำท่าจะมาแรงแซงเพื่อนอาจเป็นเขต 6 และ เขต 7” แหล่งข่าวระบุ
‘บิ๊กเนม’คัดผู้สมัคร‘รทสช.’
ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าวถึงการปรับโครงสร้างพรรคใหม่เพื่อรองรับการเข้ามาของกลุ่ม ส.ส. และนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นว่า ขณะนี้พรรค รทสช.กำลังเติบโต ซึ่งจะมีนักการเมืองและคนนอกวงการการเมืองมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะนักการเมืองที่จะเข้ามาจากหลายพรรค อาทิ พรรคประชาธิปัตย์, พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น
นายเอกนัฏกล่าวว่า โครงสร้างพรรคหลักๆ จะแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน 1.จะเป็นงานส่วนกลาง ซึ่งจะเกี่ยวกับการวางยุทธศาสตร์ การกำหนดนโยบาย การสื่อสาร และงานธุรการต่างๆ ส่วนนี้จะมีกรรมการบริหารรับผิดชอบ แต่จะดึงมืออาชีพจากวงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเสริม 2.เป็นงานระดับพื้นที่ เกี่ยวกับการคัดสรรและประสานงานกับผู้สมัคร ส.ส. และเครือข่ายผู้สนับสนุน ตนกำลังจะแบ่งโซนพื้นที่ให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ละโซนจะมีคณะทำงานชุดเล็กมาร่วมรับผิดชอบงานในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะเปิดให้นักการเมืองระดับบิ๊กเนม รัฐมนตรี ส.ส. นายกอบจ. ทั้งที่มีอยู่เดิมและที่จะเข้ามาใหม่ในแต่ละพื้นที่เข้ามาร่วมงาน เบื้องต้นคณะทำงานดังกล่าวจะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่ยังมีลักษณะเป็นพื้นที่ทับซ้อน มีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ซึ่งจะต้องมีกระบวนการคัดกรองผู้สมัคร ส.ส.ที่ดีที่สุดในสายตาของประชาชนเป็นเกณฑ์หลัก
“ผมจะเปิดพื้นที่ให้แกนนำที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรครทุกคน มีบทบาท มีพื้นที่การทำงานชัดเจน นำประสบการณ์มาบริหารจัดการงานส่วนกลางและงานในพื้นที่อย่างมีอิสระและมีระบบในการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ก็ต้องอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ มีการเก็บข้อมูล มีกลไกการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวคิดเอาเอง ซึ่งในหลายพื้นที่ก็ได้เริ่มการดำเนินการไปแล้ว โดยยืนยันจะไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ขอให้คนที่เข้ามาร่วมงานพรรคสบายใจได้” เลขาฯ พรรค รทสช.กล่าว
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณีนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรค พปชร. จัดทำปฏิทินปีใหม่เป็นรูปคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม มีข้อความรวมไทยสร้างชาติ ผงาดบนเวทีโลก พร้อมใส่ตราสัญลักษณ์พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 หรือไม่ อย่างไร
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า แม้นายสายัณห์จะออกมาแถลงภาคเสธเป็นเพียงแต่เตรียมการไว้แล้วส่งให้เพื่อนดูแต่อาจหลุดไปนั้น ยังไม่น่าเชื่อถือ แต่อาจชี้ให้เห็นถึงเจตนาที่จะเผยแพร่กราฟฟิกปฏิทิน ป้ายไวนิล เข้าสู่ระบบออนไลน์ในโซเชียลมีเดียเพื่อให้หลุดออกไปในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มีการเผยแพร่รูปภาพและข้อความดังกล่าวในระบบโซเชียลมีเดีย โดยไม่จำเป็นต้องจัดพิมพ์ออกมาแจกจ่ายหรือนำไปติดตั้งก็ได้ ซึ่งสามารถสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่เลือกตั้งของตนได้แล้ว เพราะการหาเสียงปัจจุบันใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์กันแล้ว และมีกฎหมายของ กกต.ควบคุมดูแลอยู่ ข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่มีน้ำหนักพอ สมาคมจึงจำเป็นต้องมาร้องให้ กกต.ไต่สวนเอาผิดต่อไป.