วันศุกร์ ที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 15.38 น.
กรณีเหตุการณ์ชายฉกรรจ์จำนวน 6คน ขับรถยนต์กระบะสีขาว มีอาวุธปืนครบมือบุกเข้างัดบ้านเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านเลขที่ 53/1 หมู่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช โดยภาพวงจรปิดในบ้านหลายมุมจับภาพนาทีกลุ่มชายฉกรรจ์บุกเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านที่เกิดเหตุตามจุดต่างๆไว้ได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายได้ยกตู้เซฟภายในมีเงินสดและทรัพย์มีค่าจำนวนมากและทองคำหนัก26บาท รวมทรัพย์สินมูลค่าเกือบ1ล้านบาท หลบหนีลอยนวล โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 2กย.2565 หรือเมื่อ3เดือนที่ผ่านมา แต่ตำรวจ สภ.หัวไทรยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายคดีนี้ได้เลย จนมีการนำคลิ๊ปภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุออกมาเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง โดยทาง นางปราณี คงสีชาย อายุ 73 ปีเจ้าบ้านต้องออกมาร้องกับสื่อขอให้ตำรวจเร่งรัดจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วตามข่าวนั้น
วันที่ 2 ธค. ที่ห้องประชุม สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชพร้อมด้วย พ.ต.อ.มนเฑียร เบ้าทอง รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช,พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยกำลัง ตำรวจกองปราบ,ตร.กก.สืบสวนภาค8และตร.กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายคดีนี้ได้แล้วจำนวน 4คน จากจำนวนรวมทั้งหมด7คนที่ถูกศาลจังหวัดปากพนังออกหมายจับในคดีนี้
โดยพล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช แถลงว่า ได้สั่งการตำรวจหลายหน่วยทั้งกองปราบปราม ตร.สืบสวนภาค 8และตร.สืบสวนจังหวัดเร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายคดีนี้ให้ได้โดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนคดีหนึ่งในพื้นที่ภาคใต้ และทาง พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8ให้ความสนใจเร่งรัดคดีต่อเนื่องมาโดยตลอดเนื่องจากคดีล่าช้ามาเป็นเวลานานแล้ว
ล่าสุดทางตำรวจนครศรีธรรมราช ได้สามารถรวบรวมพยานหลักฐานเสนอขอศาลจังหวัดปากพนัง ออกหมายจับคนร้ายนี้ได้ครบแล้วจำนวน 7 คน ประกอบด้วยคนร้ายที่เข้าไปก่อเหตุ จำนวน 6 คนและอีกคนคนที่ 7 ชื่อนายธวัฒชัย อายุ 38ปี ทำงานรับราชการที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าของบ้าน และเป็นคนชี้เป้าและนกต่อให้กับกลุ่มคนร้ายชายฉกรรจ์เข้าไป่ก่อเหตุ
โดยล่าสุดตำรวจได้นำหมายจับจับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาได้แล้ว4 คน เหลือคนร้ายที่ยังหลบหนีอีก3คน รวมทั้งหลานชายของเจ้าของบ้านด้วย ทางตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวคนร้ายที่เหลือต่อไป สำหรับคนร้ายที่จับกุมได้ 4คนประกอบด้วยนายวีรยุทธ 38 ปี,นายภูริวัจน์ 30 ปี,นายรัฐมนูญ 29 ปี และนายชัยรัตน์ 56 ปี ทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนคนร้ายที่จับกุมมาได้4คนทางตำรวจได้คุมตัวมาสอบสวนปากคำขยายผล จนสามารถยึดทรัพย์กลับคืนมาได้จำนวนหนึ่งและตามไปยึดตู้เซฟแบบโบราณที่กลุ่มคนร้ายพาไปฝังดินในหนองน้ำสวนปาล์มน้ำมัน ท้องที่ ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจจึงสามารถติดตามขุดตู้เซฟมาได้กำลังอยู่ระหว่างการสำรวจทรัพย์สินอยู่ว่ายังอยู่ครบหรือไม่ต่อไป โดยพบว่าตู้เซฟได้ถูกงัดออกแล้วคาดว่าทรัพย์สิน ถูกคนร้ายยกเค้าไปทั้งหมด และตำรวจตรวจยึด อาวุธปืนสั้นของคนร้ายมา 2กระบอก และอาวุธปืนสั้นของผู้เสียหายอีก1กระบอกโทรศัพท์มือถือ1เครื่อง
ส่วนคนร้ายที่เหลือ 3 คนศาลจังหวัดปากพนัง อยู่ระหว่างการติดตามตัว คือนายปัญญา อายุ 41,นายธวัชชัย อายุ 39 ปี และนายธวัฒชัย 38 ปี (หลานชายเจ้าของบ้านที่เป็นบงการชี้เป้าให้กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง6คนเข้าไปลักทรัพย์ภายในบ้านของผู้เสียหาย) คาดว่าจะมามารถจับกุมตัวได้เร็วนี้
นายวีระยุทธ หนูชัยแก้ว อายุ 38ปี 1ใน7ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายธรัฒชัย 1ใน7 ของผู้ต้องหาซึ่งเป็นหลานชายของเจ้าของบ้านเป็นผู้วางแผนชักชวนให้เข้ามาลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าว โดยมีการบอกพิกัดว่าของมีค่าอยู่ตรงไหนบ้าง และให้ข้อมูลว่าเจ้าของบ้านออกจากบ้านไปในสวนช่วงไหนเวลาไหนกลับเวลา เพื่อเป็นการสะดวกในการเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านดังกล่าว ยอมรับว่าตนเพียงต้องการเงินทรัพย์เท่านั้นไม่ได้คิดจะทำร้ายเจ้าของบ้าน แต่อย่างใด นายวีระยุทธ กล่าวในที่สุด พร้อมยกมือไหว้ของโทษเจ้าของบ้านที่มาดูผู้ต้องหาที่ สภ.หัวไทร พร้อมระบุว่าส่วนตัวไม่รู้จักกับเจ้าของบ้านแต่ถูกหลานชายของเจ้าของบ้านชักชวนให้พวกตนมากระทำการลักทรัพย์ในครั้งนี้ ส่วนมูลเหตุจูงในทราบจากหลานชายเจ้าของบ้านว่าไปขอเงินจากเจ้าของบ้านแล้วไม่ให้จึงวางแผนให้6กลุ่มชายฉกรรจ์เข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวจนสำเร็จ นายวีระยุทธ กล่าวในที่สุด
ด้านนางปราณี คงสีชาย อายุ 73ปี เจ้าของบ้านเผยว่าตนรู้สึกดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาได้ในครั้งนี้ แต่ตกใจไม่นึกว่าหลานชายของตนจะเป็นคนวางแผนเข้าไปลักทรัพย์ในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานสำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3คนที่ยังหลบหนีทราบว่าอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามอบตัวในเร็วๆนี้ โดยทาง พล.ต.ต.สมชาย เผยว่ามั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้แน่นอน