การเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเส้นบาง ๆ กั้นคำว่า “ศักดิ์ศรี” กับ “มารยาททางการเมือง” ขึ้นอยู่กับรสนิยม-ค่านิยมทางการเมือง
ไม่ถึง 24 ชั่วโมง พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ นายเทพไท เสนพงศ์ พ้นจากความเป็น ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช จาก “กรรมเก่า” กรณีทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อปี 2556
“สองพรรคการเมืองใหญ่” ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ ต่างช่วงชิงความได้เปรียบเสนอ “มวยแทน” เพื่อลงชิงเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช “ที่ว่างลง” เกิดเป็น “วิวาทะ” กลายเป็น “ศึกเกาเหลา” ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
พรรคพลังประชารัฐ “โยนหินถามทาง” เตรียมส่ง “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” อดีต ส.ส.ต. (ส.ส.สอบตก) ซึ่งได้คะแนนเป็น “อันดับสอง” ลงเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช
สำทับกับพี่ใหญ่-บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่ตอบคำถามเร็ว ๆ ว่า จะส่งผู้สมัครลงแน่นอน
ทั้งนี้ แกนนำตัวทำเกมในพรรคพลังประชารัฐ มองว่า กระแส “เทพไท” ในพื้นที่เมืองคอน อ่อนกำลังลงไปมาก หากไม่ส่งตัวตาย – ตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐลงไป อาจทำให้เสียเก้าอี้ให้คู่แข่งรายอื่นที่พยายามสร้างอิทธิพลในภาคใต้ นอกจากนี้ ยังหวังถึงขั้นแก้เผ็ด “เทพไท” หลังทำตัวเป็นฝ่ายค้านในซีกรัฐบาลมาตลอด
จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์-แชมป์เก่า “นั่งไม่ติด” ต้องเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อเคาะรายชื่อ-ตัวตาย ตัวแทนนายเทพไท มีแนวโน้มว่าจะเสนอชื่อ “น้องชายคนเล็กบ้านใหญ่เสนพงศ์” ลง “ป้องกันแชมป์”
ท่ามกลางความขัดแย้ง ของ “สองตระกูล” ระหว่าง “บุณยเกียรติ” กับ “เสนพงศ์” ที่จะเป็นเสียงสะท้อนว่า “ตระกูลเสนพงศ์” ยังคงขายได้ใน จ.นครศรีธรรมราช และประชาธิปัตย์หรือไม่ หรือตายไปแล้วในทางการเมือง
ตามทฤษฎี “มารยาททางการเมือง” แล้ว พรรคพลังประชารัฐมีแนวโน้มที่จะ “หลบ” ให้กับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนที่เคย “หลีกทาง” ให้พรรคร่วมรัฐบาลในสนามเลือกตั้งซ่อมหลายครั้ง แต่สนามเลือกตั้งปักษ์ใต้อาจสู้กันเดือด แบบไม่ยอมให้กัน
ขณะที่พรรคตาอยู่-ภูมิใจไทย แม้การเลือกตั้งครั้งปี 2562 ไม่สามารถเป็น “ตัวสอดแทรก” ท่ามกลางการต่อสู้กันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ ได้
ทว่า 1 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ที่มี “บ้านใหญ่รัชกิจประการ” นาที-พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็น “แม่ทัพ-ขุนพลภาคใต้” พยายามรุกหนักในการช่วงชิงพื้นที่ภาคใต้
การเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ส่ง ว่าที่ ร.ท.สนั่น พิบูลย์ เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 3 ได้ 15,490 คะแนน แม้พรรคยังไม่มี “มติ” อย่างเป็นทางการว่า จะหลบ-หลีก ให้เพื่อนร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ แต่ “แหล่งข่าวในพรรคภูมิใจไทย” ยืนยันว่า มีความพร้อม และมีตัวละครที่ทำพื้นที่โดยตลอดอยู่แล้ว โดยมีคนเก่า “ว่าที่ ร.ท.สนั่น พิบูลย์” ที่เพิ่งพลาดท่า จากการลงสนามสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เป็นตัวเลือกข้างสนาม
ด้านพรรคน้องใหม่-พรรคกล้า ของ “กรณ์ จาติกวณิช” ออกตัวแรง-เปิดตัว “สราวุฒิ สุวรรณรัตน์” ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เป็น “แคนดิเดต ส.ส.คนแรก” ของพรรคกล้า ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ก่อนพรรคอื่น
หลังจากก่อตั้งพรรคกล้าไม่ถึง 1 ปี และ “ลงพื้นที่” อย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ เป็นโอกาสของ “กรณ์” ที่จะ “ชิมลาง” สนามการเลือกตั้ง “ครั้งแรก” และเป็นการ “วัดกระแส” พรรคกล้า ที่เป็น “รูปธรรม” มากที่สุด หลังจากเป็น “ลมใต้ปีก” ประชาธิปัตย์ มาแรมปี
การเลือกตั้งเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อ 24 มีนาคม 2562 อันดับหนึ่ง นายเทพไท 33,310 คะแนน อันดับสอง นายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ 28,742 คะแนน อันดับสาม ว่าที่ ร.ท.สนั่น พิบูลย์ พรรคภูมิใจไทย 15,490 คะแนน
หากวัดกระแสจากเลือกตั้งสนามเล็ก-นายก อบจ.นครศรีธรรมราช อย่างไม่เป็นทางการ นางกนกพร เดชเดโช มารดา “ชัยชนะ เดชเดโช” ส.ส.ประชาธิปัตย์ ในนาม “พลังเมืองนคร” คว้าเก้าอี้นายก อบจ. ด้วยคะแนนอันดับ 1 จำนวน 264,456 คะแนน
นายอนันต์ ทองอุ่น “ทิศทางใหม่” 146,675 คะแนน นายอำนวย ยุติธรรม จาก “นครประชารัฐ” ค่ายพลังประชารัฐ ส่งเข้าประกวด ได้ 111,689 คะแนน นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.-น้องชาย “ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” รองประธานวิปรัฐบาล แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 62,180 คะแนน
แม้ระฆังเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราช ยังไม่ดัง-มวยยังไม่ขึ้นชก “ราคาต่อรอง” ทางการเมืองก็สูงลิบทั้งในพรรค-นอกพรรคร่วมรัฐบาล