เกาะติดอัพเดท เช็ค “โควิดวันนี้” 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. อันดับ 1 จับตา นนทบุรี เพชรบุรี สมุทรสาคร และนครศรีธรรมราช
สถานการณ์ โควิดวันนี้ รายงานเกาะติดความคืบหน้า จากการแถลงศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ตรวจสอบอัพเดท 10 จังหวัดอันดับพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 สูงสุด
จํานวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศรายใหม่ วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 จํานวน 10 จังหวัดอันดับแรก
1 กรุงเทพมหานคร 873 ราย
2 นนทบุรี 155 ราย
3 สมุทรปราการ 121 ราย
4 ปทุมธานี 117 ราย
5 สมุทรสาคร 63 ราย
6 เพชรบุรี 43 ราย
7 ชลบุรี 33 ราย
8 นครศรีธรรมราช 30 ราย
9 สงขลา 29 ราย
10 พระนครศรีอยุธยา 28 ราย
ทั้งนี้ กรุงเทพฯ หรือ กทม. คงอันดับที่ 1 ลดลงต่ำกว่าพันราย และต้องจับตา นนทบุรี เพชรบุรี สมุรสาคร และนครศรีธรรมราช ยอดเพิ่มมากกว่าวานนี้
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม ประกอบด้วย กรุงทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสมุทรปราการ รวม 4 จังหวัด
พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง ให้พื้นที่จังหวัด รวม 17 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี (เดิมเป็นสีแดงเข้ม) ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี สมุทรสาคร สงขลา สุราษฎร์ธานี
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. – 17 พ.ค. 2564)
รวม 2,340,995 โดส ใน 77 จังหวัด
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 : 1,521,034 ราย
(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 : 819,961 ราย
(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)
การรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่กระจายเข้าสู่เรือนจำนั้น รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม จะดำเนินตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้ผู้ต้องขัง 100% โดยจะประสาน โรงพยาบาลแม่ข่าย กรมควบคุมโรค กรมการแพทย์ และสปสช. ให้เข้าช่วยในการตรวจหาเชื้อในครั้งนี้
ส่วนเรือนจำต่างจังหวัดจะยกระดับการป้องกัน ใช้แนวทางบับเบิ้ล แอนด์ซีล และจัดตั้ง รพ.สนามในเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะต้องกันแดนไว้ 1 แดนเพื่อจัดทำ รพ.สนาม
นอกจากนี้ ได้ให้เรือนจำทุกแห่งประสานไปยังศาล เพื่อขออนุญาตชะลอการส่งตัวผู้ต้องขังไปเข้ากระบวนการระยะหนึ่ง เพื่อให้ญาติผู้ต้องขังและสังคมสบายใจ
ล่าสุด ผลการตรวจคัดกรองในเรือนจำและทัณฑสถานพื้นที่เสี่ยง (เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ) เป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย และได้ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เพื่อต้านไวรัสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับการฉีดวัคซีน ได้เริ่มฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในเรือนจำส่วนใหญ่แล้ว ในส่วนผู้ต้องขังจะเริ่มต้นในกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัวก่อน
ที่มา: ไทยคู่ฟ้า