เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ได้มอบหมายให้ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลสูบน้ำที่ 1 (จังหวัดพิษณุโลก) ส่วนเครื่องจักรกลสูบน้ำ สำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่อง บริเวณคลองบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษายมน่าน สำนักงานชลประทานที่ 3 โดยสูบน้ำจากคลองบางแก้วเพื่อส่งไปยังท่อส่งน้ำ สามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้งทางการเกษตร นาข้าว พืชสวน พืชไร่ พื้นที่รับประโยชน์ 1,000 ไร่ ทั้งนี้สำนักเครื่องจักรกล ได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักรกลอื่นๆ พร้อมให้การสนับสนุนแก่พี่น้องเกษตรกร กลุ่มผู้ใช้น้ำและประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งในปัจจุบัน
ทั้งนี้นายประพิศ กล่าวว่า กรมชลประทานได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ด้านภัยแล้งในหลายพื้นที่ ได้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถเครน รวมถึงรถบรรทุกน้ำไว้เตรียมพร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ ซึ่งผู้ที่เดือดร้อนประสบภัยแล้ง สามารถโทรไปแจ้งได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา
วันเดียว นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 จุดจำนวนเครื่องจักร 2 รายการโดยสามารถสูบน้ำ-ผลักดันน้ำได้รวม71,300 ลบ. ม. จุดที่ 1 เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ. ม. ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่องบริเวณบางจอยตำบลหูล่องอำเภอปากพนังจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อบรรเทาภัยแล้งให้ทางการเกษตรนาข้าวพืชไร่พืชสวนโดยจะสามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลบ.ม. จุดที่ 2 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 12 นิ้ว (0.3 ลบ. ม. ต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่องบริเวณคลองบางจากตำบลบางจากอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อบรรเทาภัยแล้งให้ทางการเกษตรนาข้าวพืชไร่พืชสวนโดยจะสามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลบ.ม.